คลิปที่เกี่ยวข้อง

1917 เวลาคือศัตรู - ว่าที่ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี

1917 ภาพยนตร์แนวดราม่าที่มีฉากหลังอยู่ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่หยิบเอาหนึ่งในภารกิจสำคัญของกองทัพอังกฤษมาเล่าในรูปแบบของภาพยนตร์  เมื่อ 2 พลทหารต้องเดินฝ่าสมรภูมิที่สุดแสนจะอันตราย เพื่อไปแจ้งข่าวถึงการยกเลิกภารกิจการโจมตีให้กับแนวหน้าได้รับทราบ โดยมีชีวิตของนายทหาร 1,600 นายเป็นเดิมพัน

หลังการประกาศผลรางวัลลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 77 ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็สามารถคว้าโทรฟี่ไปครองได้ถึง 2 รางวัล ทั้งในสาขาภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยม และหลังจากนั้น 1917 ก็ยังร้อนแรงไม่หยุด เมื่อเวทีออสการ์ได้ประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งล่าสุด ซึ่งจะมีการประกาศผลรางวัลในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ 1917 ก็มีชื่อเข้าชิงถึง 10 สาขาเลยทีเดียว นั่นทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการจับตามองจากสื่อทั่วทุกมุมโลก เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกอะไรบางอย่างว่า ภาพยนตร์เรื่อง 1917 อาจคว้าตุ๊กตาออสการ์ไปครอบครองมากกว่าที่เซียนหนังคิดไว้ก็เป็นได้



 
ด้านผู้กำกับ แซม เมนเดส เจ้าของรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเวทีลูกโลกทองคำในปีนี้ ผู้เคยสรรสร้างผลงานภาพยนตร์จอเงินมาแล้วมากมาย อาทิเช่น  American Beauty (1999) , Jarhead (2005) และภาพยนตร์แฟรนไชส์หนังสายลับระดับโลกอย่าง James Bond 007 ภาค Skyfall (2012) และ Spectre (2015) บอกเลยว่าทุกเรื่องที่เมนเดสกำกับนั้น การันตีด้วยรางวัลเกือบทุกเรื่อง และในปีนี้ 1917 ก็มีชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของเวทีออสการ์อีกด้วย ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ สำหรับผู้กำกับคนนี้

พาร์ทของนักแสดง 1917 ได้นักแสดงอย่าง ดี-ชาร์ล แชปแมน ที่เรารู้จักใน Game of Thrones มารับบทเป็น สิบตรีเบรค ตัวละครที่มองเป้าหมายสุดท้ายไว้คือการกลับบ้าน ส่วนนักแสดงนำอีกคนคือ จอร์จ แม็คคีย์ จาก Peter Pan (2003) ที่มารับบทเป็น สิบตรีสกอฟิลด์ ผู้ไม่ยี่หระต่อสงคราม นอกจากนี้คนดูยังจะได้เห็น "หมอแปลก" เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ จาก Doctor Strange มารับบทเป็นพันเอกแม็คเคนซี่อีกด้วย


 
ด้านเทคนิคการถ่ายทำ แซม เมนเดส ได้เลือก โรเจอร์ ดีกิ้นส์ ผู้กำกับภาพที่เคยร่วมงานกับเขามาแล้ว 3 ครั้ง ใน Jarhead , Revolutionary Road และ Skyfall โดย โรเจอร์ ดีกิ้นส์ เคยมีชื่อเข้าชิงรางวัลผู้กำกับภาพยอดเยี่ยมมาแล้วถึง 14 ครั้ง โดยในปีนี้เขาคว้ารางวัลไปแล้ว 11 รางวัล และในปีนี้เขายังมีชื่อเข้าชิงรางวัลผู้กำกับภาพยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์อีกด้วย และใน 1917 ยังไม่หมดความพีคเพียงเท่านี้ โดยในหนังยังใช้เทคนิคการถ่ายทำภาพยนต์แบบ ช็อตเดียวต่อเนื่อง (Single Shot Featurette) เพื่อให้คนดูนั้นสัมผัสถึงความต่อเนื่องของภาพยนตร์และทำให้คนดูนั้นอินไปกับตัวหนังได้อย่างเต็มอรรถรส

อย่างที่เกริ่นไปในตอนต้น 1917 บอกเล่าถึง 2 พลทหารอย่าง สิบตรีเบรค และ สิบตรีสกอฟิลด์ ที่ต้องเดินผ่าสมรภูมิสงครามที่สุดแสนจะอันตราย เพื่อนำข้อความสำคัญไปให้อีกหน่วยรบในแนวหน้าให้ได้ทราบถึงแผนการรบ โดยที่ทั้งสองนั้นต้องเผชิญกับความลำบากและความน่ากลัวของสงครามโลกครั้งที่ 1 ตลอดระยะทางของเขาทั้งสอง  ซึ่งบอกได้เลยว่าแอดประทับใจกับภาพยนตร์เรื่องนี้มาก ทั้งบรรยากาศของหนังที่สื่อออกมาได้สมจริงประดุจสงครามโลกครั้งที่ 1 อยู่ตรงหน้า เพลงประกอบทำได้ยอดเยี่ยมสมราคาหนังรางวัลลูกโลกทองคำ แต่ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือเรื่องของเทคนิคการถ่ายทำแบบช็อตเดียว มันทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องได้แบบที่ไหลลื่น ทำคนดูลุ้นไปกับทุกฉากทุกซีนตัวละคร ที่ต้องทำภารกิจอันสำคัญให้ลุล่วง ตัวหนังยังสื่อถึงอีกมุมหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เราไม่เคยได้เห็นมาก่อน และแม้ว่า 1917 จะไม่มีฉากไล่ฆ่ากันอย่างบ้าคลั่งอย่างหนังสงครามเรื่องอื่นๆ แต่ตลอดเรื่องนั้น "เอาอยู่" สามารถทำให้คนดูอินไปกับตัวละครได้แบบไม่ต้องลุกไปไหน อาจเป็นเพราะเพลงประกอบที่ลงตัว และนักแสดงที่สามารถตีบทของตัวละครแตก นั่นยิ่งทำให้หนังเรื่องนี้โคตรน่าดูมากเลยทีเดียว ใครที่อยากสัมผัสว่าที่ภาพยนตร์ที่ดีที่สุดของปีที่มีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในปีนี้ถึง 10 สาขา ไม่ควรพลาดเด็ดขาด ! กับภาพยนตร์เรื่อง 1917 เรื่องนี้


 
ขอสรุปสั้นๆ ตรงนี้เลยว่า โปรดักชั่นดีมากสำหรับหนังเรื่องนี้ กราบเมนเดสและดีกินส์งามๆ ทุกอย่างในหนังลงตัวแบบสุดๆ ทั้งบท ทั้งภาพ ทั้งเพลงประกอบ รอลุ้นให้ 1917 คว้ารางวัลบนเวทีออสการ์ได้เลย คะแนน 10/10

BUGABOO MOVIE / เครดิตภาพจากช่อง UIP Thailand























 

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark