ข่าวในหมวด ประเด็นเด็ด 7 สี

หนุ่ม พนง.โรงหนังเล่านาทีติดค้างในห้าง - ช่วยคนอพยพหนีตายเหตุกราดยิง

ประเด็นเด็ด 7 สี - หนุ่มพนักงานโรงภาพยนตร์ที่ทำงานในห้าง เปิดใจเล่านาทีขณะเกิดเหตุกราดยิง พาลูกค้านับร้อยซ่อนตัวในความมืดและเงียบสนิท ฟังเสียงปืนที่ดังขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน ก่อนพยายามหลบหนีออกมาหลายครั้งจนเกือบสิ้นหวัง ก่อนจะหลบหนีออกมาได้สำเร็จ

หนุ่มพนักงานโรงภาพยนตร์ในห้างเทอร์มินอล 21 เปิดเผยความรู้สึกหลังต้องหลบเข้าไปอยู่ในห้องพนักงาน พร้อมเพื่อนและลูกค้ารวมกว่า 160 คน หลังเกิดเหตุการณ์ จ่าทหารคลั่งกราดยิง มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก โดยเขาเล่าว่าต้องอยู่กันอย่างแออัดในห้องเล็ก ๆ ที่จำเป็นต้องมืดสนิท เครื่องปรับอากาศถูกปิดราวกับไร้คนอยู่ ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีอาหาร มีเพียงน้ำดื่มที่จำกัด ภายใต้ความตึงเครียดจากเสียงปืนที่ดังขึ้นเป็นระยะ

เขาเล่าว่า ทันทีที่เกิดเหตุกราดยิงในช่วงเย็นวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พนักงานรีบแจ้งลูกค้าที่กำลังดูหนังในโรงภาพยนตร์ชั้น 5 ของห้างพามาหลบอยู่ในที่ปลอดภัย ให้ทุกคนติดต่อญาติ เก็บจุดซ่อนตัวเป็นความลับ ปิดโทรศัพท์มือถือ อยู่อย่างเงียบที่สุด แล้วรอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ผ่านการประสานจากพนักงานที่มีวิทยุสื่อสารติดต่อกับภายนอก และใช้กล้องวงจรปิดคอยสอดส่อง

ในที่สุดความหวังแรกก็มาถึง รปภ.ของห้างที่คอยประสานกับเจ้าหน้าที่และเดินตรวจสอบภายในห้างตามจุดซ่อนตัว บอกให้เตรียมอพยพ หลังพบเส้นทางปลอดภัย แต่ลงมาได้เพียงชั้นเดียว เสียงปืนก็กระหน่ำดังขึ้นหลายนัด จนต้องหาจุดซ่อนตัวอีกครั้ง ขณะที่มีบางส่วนหนีลงไปได้ไกลกว่า แต่ไม่ทราบชะตากรรม

ภายใต้ความสิ้นหวัง กลุ่มคนที่เหลือ 70 คน ตัดสินใจเคลื่อนไหวอีกครั้ง ไปยังชั้น 7 ด้านบนสุดของห้าง ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ปรากฎว่าเจอกับคนอีกนับร้อยที่หลบซ่อนตัวอยู่ด้านใน 30 นาทีผ่านไป เจ้าหน้าที่บอกให้อพยพอีกครั้ง ใช้บันไดหนีไฟตรงไปยังชั้น G ทุกคนตั้งแถวยาวเรียงหนึ่ง คล้ายแผนอพยพหนีไฟ แต่สิ่งสำคัญคือความเงียบ

กว่า 6 ชั่วโมงที่ติดค้าง กลุ่มคนกว่าร้อยชีวิตถูกช่วยเหลือออกมาได้สำเร็จ โดยได้รับการคุ้มกันจากเจ้าหน้าที่ ท่ามกลางความโล่งใจของญาติที่รอฟังข่าว

ป้าของหนุ่มพนักงานบอกว่า คอยฟังข่าวด้วยความเป็นห่วง หลานชายคนนี้อาศัยอยู่กับน้องชายเพียง 2 คน ดีใจที่รอดมาได้และยังได้ช่วยเหลือคนอื่น ๆ

ด้านหนุ่มพนักงานบอกว่า หลังเกิดเหตุยังหวาดผวากับสิ่งที่เกิดขึ้นจนไม่กล้าออกจากบ้าน แต่ได้รับความห่วงใยจากคนในครอบครัวคอยพูดคุย จนขณะนี้สภาพจิตใจดีขึ้นแล้ว

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark