คลิปที่เกี่ยวข้อง

เรื่องย่อละครคุณชายตำระเบิด

หลายคนอาจคิดว่า  ต้มยำกุ้ง  ผัดไท  เป็นอาหารประจำชาติ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว  “ส้มตำ” ต่างหากที่เป็นอาหารประจำชาติไทย
เข้าถึงรสชาติความเป็นไทยที่ทั่วประเทศยอมรับ
ตั้งแต่คุณนายไฮโซ  ยันกรรมกรข้างถนน
ส้มตำนี่แหละ...แซ่บถึงเครื่อง รสถึงใจ  อะไรก็สู้ไม่ได้อีกแล้ว
................................................................................

ณ  หมู่บ้านอันห่างไกลความเจริญแห่งหนึ่งในภาคอีสานที่เพิงหมาแหงนริมถนนนั้น  เป็นที่เลื่องชื่อของรสมือการตำส้มตำรสแซ่บหลาย  ถูกใจชาวบ้านชาวช่องเป็นนักหนา  ที่น่าแปลกกว่านั้นคือผู้ลง  มือเป็นชายหนุ่มร่างกายกำยำล่ำสัน  ที่มีชื่อว่า  “ไอ้เผือก”  ฝีมือระดับเซียนที่หาคนมาเทียบเทียมได้ยาก ทั้งลาบหมู น้ำตก ต้มแซ่บ ไก่ย่าง ล้วนแต่อร่อยจนแทบไม่เหลือให้หมาที่ทำตาละห้อยแถวนั้นได้กินเลยสักวัน  แต่ที่ต้องยกให้เป็นสุดยอดซุปเปอร์เมนูต้องเป็น “ตำระเบิด” เท่านั้น  ส้มตำสูตรพิเศษรสแซ่บ     ถึงเครื่อง ไม่มีหวงเครื่องปรุงให้เสียอารมณ์  ยิ่งกินกับขนมจีนด้วยแล้วละก็หลายต่อหลายคนยอมนั่งรถจากในตัวเมืองมาลองลิ้มชิมรสตำระเบิดของเผือกกันอย่างถ้วนหน้า อันที่จริงเผือกน่าจะรวยเป็นมหาเศรษฐีไปแล้ว แต่เพราะ “ทองมี” พ่อของเผือกนั้นติดเหล้าอย่างหนักชอบไถเงินลูกชายไปให้ร้านเหล้ายาดองในตัวอำเภอตลอด  พอไม่ให้ก็ตบตี เผือกจำใจต้องยอมให้พ่อเพราะไม่อยากได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกอกตัญญู เขาไม่ได้หวงเงินพ่อแต่ไม่อยากให้พ่อเมาหัวราน้ำมากกว่า

เท่านั้นยังไม่พอ “รำจวญ” ผู้เป็นแม่ก็ติดเล่นไพ่ งานการไม่ทำ  วันๆขลุกอยู่แต่ในบ่อน  คงไม่ต้องบอกว่าเงินที่เอาไปเล่นไพ่แทงหวยทุกวันนั้นมาจากใคร  ถ้าไม่ใช่ “เผือก”  ดีที่ยังมี  “ยายดวง”  กับ  “ผึ้ง”  สองยายหลานที่คอยเป็นกำลังใจให้เผือกสู้กับชีวิต  ยายดวงเองไม่อยากเป็นภาระของหลานอยากมาช่วยเผือกขายส้มตำแต่ก็ฝืนสังขารตัวเองไม่ไหว  ทำได้แค่ช่วยเตรียมข้าวของให้  ส่วนผึ้งนั้นเรียนอยู่ชั้น ม.6 หญิงสาวมาช่วยพี่ชายขายส้มตำหลังจากเลิกเรียน และวันเสาร์อาทิตย์ผึ้งเองตั้งใจว่าถ้าจบ ม.6 แล้ว จะไม่เรียนต่อเพราะสงสารเผือกที่ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว แต่เผือกไม่ยอม ไม่ว่าเขาจะทำงานเหนื่อยหรือหนักแค่ไหน  เขาก็อยากให้น้องสาวคนเดียวของเขาได้เรียนสูงๆเท่าที่จะทำได้เพื่อทดแทนความฝันของเขาที่อยากเรียนแต่ไม่มีเงินเรียนจึงจบมาแค่วุฒิ ม.6  เท่านั้น

วันหนึ่ง  มีชายแปลกหน้ามาขายล็อตเตอรี่ที่หมู่บ้าน  แต่ไม่มีใครสนใจซื้อ ต่างก็เอาเงินไปเล่นหวยใต้ดินของ เจ๊ ในตัวอำเภอมากกว่า  ชายคนนั้นหิวจนหน้ามืดเป็นลมตรงหน้าร้านส้มตำของเผือก  เผือกจึงช่วยปฐมพยาบาลไว้และให้กินอาหารในร้านฟรี  เพราะชายคนนั้นบอกว่าไม่มีเงิน  โดยเผือกไม่เคยรู้เลยว่าแค่คำว่า “ไม่เป็นไรพี่...มีกินก็แบ่งๆ กัน” จะทำให้เขารวยเป็นเศรษฐีร้อยล้าน เพราะชายคนนั้นมอบ       ล็อตเตอรี่ใบหนึ่งให้กับเผือก ซึ่งมันถูกแจ๊กพอตรางวัลที่หนึ่งในงวดนั้นนั่นเอง   จาก “ไอ้เผือก” กลายเป็น “คุณชายเผือก” ในบัดดล ด้วยความที่ไม่เคยมีเงินเยอะขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ทำเอาทุกคนในครอบครัวตื่นเต้นต่างวาดฝันกันไปต่างๆ นานาว่าจะซื้อนั่นซื้อนี่  แต่ยังไม่ทันจะได้ทำตามใจอยากพวก “ญาติที่ไม่รู้จัก”  ก็พากันมาเยี่ยมที่บ้านโดยไม่ได้นัดหมาย  มีหลายคนที่เผือกไม่เคยเห็นหน้ามาตลอดชีวิตก็เข้ามากอดอย่างรักใคร่  แน่นอนว่าทุกคนที่มาไม่ได้หวังแค่จะมาเยี่ยมแต่หวังที่จะมาเอาส่วนแบ่งไปด้วย  เห็นท่าจะไม่ได้การแล้ว  ทุกคนในบ้านจึงจัดการวางแผน “อพยพ” ไปในที่ที่ห่างไกลและคิดว่าจะไม่มีใครตาม  มาเจอ นั่นคือกรุงเทพฯ

บ้านนอกเข้ากรุงก็งานนี้แหละ  ทั้งห้าคนตื่นเต้นราวกับเพิ่งได้มาเห็นเมืองที่มีตึกสูง  และรถไฟฟ้าครั้งแรก  ชีวิตเริ่มต้นด้วยการหาบ้านสักหลังเป็นที่พำนักอาศัย  ในที่สุดเผือกได้บ้านสุดหรูในหมู่บ้านไฮโซฯ มาพักอาศัย บ้านที่ใหญ่กว่ากระต๊อบหลังเดิมไม่รู้กี่เท่า ทองมีกับรำจวญดี๊ด๊าจะได้เป็นไฮโซฯ     พากันแย่งขอเงินลูกชายไปประเดิมใช้ในกรุงเทพฯ  เมื่อเผือกขัดก็ถูกต่อว่า  สุดท้ายเลยต้องให้ไปตามระเบียบ  ที่ข้างบ้านของเผือกนั้นเป็นบ้านของ “คุณหญิงสายสมร”  ที่ค่อนข้างเย่อหยิ่งและเก็บตัวไม่สุงสิงกับผู้ใด  ด้วยความที่คนในครอบครัวของเผือกมาจากบ้านนอก  จึงพากันส่งเสียงโวยวายลั่น  จนคุณหญิงสายสมรไม่พอใจ  ส่ง “จิ้งหรีด”  สาวใช้ที่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ไปต่อว่า  และเมื่อเธอได้พบกับเผือกนั้น    ก็นึกว่าเผือกเป็นคนใช้ของบ้าน  จึงได้ต่อว่าอย่างรุนแรงและดูถูกต่างๆนานา  จิ้งหรีดทำเชิดบอกว่าตัวเองเป็นลูกสาวเจ้าของบ้านเพื่อข่มเผือก  เผือกเองก็ใช่คนที่ยอมคนซะเมื่อไหร่เขาจึงตอกกลับ  สงครามน้ำลายข้ามรั้วจึงกำเนิดขึ้น  ผึ้งเองได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง  ด้วยความที่เป็นเด็กบ้านนอก  จึงตามความทันสมัยของเพื่อนๆไม่ทัน  แต่ด้วยความที่ผึ้งเป็นคนสวยทำให้มีหนุ่มๆมาติดมากมาย หนึ่งในนั้นคือ  “นับหนึ่ง”  รุ่นพี่ที่คณะสุดป๊อบ  ยิ่งพอรู้ว่าผึ้งเป็นเศรษฐีมือใหม่ยิ่งทำให้เขาสนใจใน “เงิน” ของผึ้งมากขึ้น นั่นทำให้  “รดา”  หญิงสาวสุดเริ่ดของคณะที่หมายตานับหนึ่งไว้เช่นกันไม่พอใจ หาเรื่องกลั่นแกล้งเธอตลอดเวลา  ดีที่มี  “เฉิ่ม”  ชายหนุ่มหน้าซื่อคอยช่วยเหลือผึ้งตลอดแต่เพราะความศิวิไลซ์และความหลงในรูป รส  กลิ่น  เสียง ของเมืองหลวง  ทำให้ผึ้งเริ่มจะมองคนที่เปลือกนอกและวัตถุแพงๆแล้ว โดยลืมที่จะคบคนที่จิตใจเหมือนตอนที่อยู่บ้านนอก ความบ้านนอกของบ้านเผือกนั้นทำเอาคุณหญิงสายสมรแทบคลั่ง
ทั้งเสียงคาราโอเกะเพลงอีสาน  กลิ่นน้ำต้มปลาร้าที่ลอยโชยข้ามรั้วเข้ามา  หรือเสียงด่าทอหยาบๆ  คายๆ  ของทองมีกับรำจวญยามทะเลาะกัน ในที่สุดคุณหญิงสายสมรก็หมดความอดทน  ตัดสินใจจะไปพักผ่อนที่นิวยอร์กกับญาติที่นั่น  โดยชวน  “ต้นหอม” ลูกสาวคนเดียวไปด้วยแต่ต้นหอมปฏิเสธ  เธอยังอยากอยู่ดูแลกิจการโรงแรมของคุณหญิงสายสมรต่อ คุณหญิงสายสมรไม่อยากขัดใจจึงยอมให้ลูกสาวอยู่ดูแลบ้านและโรงแรมทางนี้  ส่วนตัวเองบินไปเที่ยวเพื่อหลีกหนีความ “บ้านนอก”  ของคนข้างบ้าน

วันหนึ่ง  ยายดวงออกมาเดินเล่นที่หน้าบ้าน  ได้มาเจอกับ “ยายอิ่ม” ที่กลับมาจากตลาดพอดี  ทั้งสองเจอกันก็จำกันได้ว่าเป็นคนบ้านเดียวกัน  ต่างไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบจนได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วทั้งคู่ไม่ใช่คนอื่นคนไกลเลย  ยายอิ่ม เป็นหัวหน้าแม่บ้านอยู่บ้านของคุณหญิงสายสมรที่อยู่ริมรั้วบ้านของยายดวงนั่นเอง ทั้งคู่ดีใจที่ได้เจอเพื่อนเก่า ยายอิ่มเองก็อดตื่นเต้นไม่ได้ที่รู้ว่ายายดวงเพิ่งเป็นเศรษฐีใหม่ ของเมืองไทย  เรื่องราวอันน่าตื่นเต้นที่ถูกนำไปเล่าในบ้านของคุณหญิงสายสมร  จิ้งหรีดได้ยินดังนั้นก็ตาโต  เมื่อรู้ว่าคนที่เธอใช้หางตามองและด่าทอกันจนแทบจะฆ่ากันตายนั้นเป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังงาม  และรวยมีเงินเป็นร้อยล้าน  ตายละวา...ไหงเรื่องกลับตาลปัตร   แล้วถ้าไอ้หมอนั่นมารู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเธอเป็นแค่คนใช้  ไม่ใช่ลูกสาวบ้านนี้จริงๆ  จะทำอย่างไร   มีหวังได้ซุกแผ่นดินหนีแน่ๆ  เผือกเริ่มรู้สึกว่าผึ้งเปลี่ยนไป  หญิงสาวเริ่มแข็งกร้าวขึ้น  ใช้เงินเก่งเตือนอะไรก็เถียง  ไม่เชื่อฟังแบบตอนอยู่ที่บ้านนอก  เขาเริ่มเป็นห่วงน้องสาวกลัวว่าจะหลงแสงสีไปตามคนเมืองจึงตามไปดูที่มหาวิทยาลัย  ก็พบว่าผึ้งกำลังสวีทกับนับหนึ่งจนออกหน้าออกตา  ชายหนุ่มเข้าไปห้ามแต่ผึ้งแกล้งทำเป็นไม่รู้จักพี่ชายของตัวเอง เพราะเผือกแต่งตัวบ้านนอกเหมือนตอนอยู่ต่างจังหวัด เธออายเพื่อนไม่อยากให้ใครรู้ว่ามีพี่ชายที่มีสภาพเป็นแบบนี้  ทั้งเรื่องพ่อเรื่องแม่  และเรื่องน้องสาวทำเอาเผือกกลุ้มใจไม่น้อย  ชายหนุ่มตัดสินใจไปทำบุญที่วัดเพื่อให้จิตใจดีขึ้น  ที่นั่นเองเขาได้พบกับต้นหอมที่มาเลี้ยงข้าวกลางวันเด็กกำพร้าที่มูลนิธิใกล้ๆวัด เธอสวยและจิตใจดีจนเผือกอดที่จะแอบมองไม่ได้  เหมือนฟ้าเป็นใจเมื่อรถของต้นหอมเสียเผือกจึงอาสาไปส่ง  ทั้งคู่คุยกันถูกคอ  ที่สำคัญต้นหอมไม่มีทีท่ารังเกียจชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อยนั่นทำให้เผือกยิ่งประทับใจในตัวต้นหอมมาก  แล้วเรื่องเซอร์ไพร์สก็เกิดขึ้น  เมื่อต้นหอมคือเพื่อนบ้านของเผือกนั่นเอง..  โลกช่างกลมเสียจริง  เผือกแอบชอบต้นหอมมาก  แต่ก็รู้ตัวเองว่าเขาช่างเชยและบ้านนอกขนาดนี้  จึงตัดสินใจจ้าง  “เจ๊ลิลลี่” มือโปรมาเนรมิตตัวเขาเองให้เป็นคุณชายเหมาะสมกับต้นหอม  จากชายหนุ่มบ้านนอกคอกนากลายเป็นคุณชายสุดหล่อ  จนจิ้งหรีดถึงกับตกตะลึงชอบชายหนุ่มขึ้นมาซะอย่างนั้น    ด้วยหวังว่าจะได้ถีบตัวเองหลุดจากอาชีพคนใช้อันต่ำต้อยเสียทีหากได้เผือกเป็นแฟน  แต่หญิงสาวยังกังวลใจไม่หายว่าถ้าเผือกรู้ว่าตัวเธอเป็นแค่คนใช้เขาไม่มีวันชอบเธอแน่ๆ  จึงไปสารภาพความจริงกับต้นหอม  ต้นหอมนึกสนุกเลยตกลงจะอุปโลกน์ให้จิ้งหรีดเป็นน้องสาวไฮโซของตัวเองเพื่อเป็นแม่สื่อแม่ชักให้กับ
สาวใช้  เธอเชื่อว่าคนเราจะรักกันต้องเดินข้ามเรื่องชาติกำเนิดและเงินทองโดยต้นหอมไม่เคยรู้เลยว่าเผือกนั้นแอบชอบต้นหอมไม่ใช่ชอบจิ้งหรีด  ที่สำคัญจิ้งหรีดเองชอบที่  “เงิน” ของชายหนุ่มมากกว่าจิตใจ...

เผือกที่หลงรักต้นหอมมาก  แต่ไม่รู้จะเข้าใกล้หญิงสาวได้อย่างไร  จึงหวังที่จะเข้าใกล้ต้นหอมด้วยการมาทำดีกับจิ้งหรีด  ที่เขาคิดว่าเป็นน้องสาวของต้นหอม  เพราะความดีของเผือกทำเอาจิ้งหรีดยิ่งชอบเขามากขึ้นโดยไม่รู้เลยว่าเผือกมาทำดีนั้นเพราะอยากจีบต้นหอมมากกว่า  วันหนึ่งเป็นวันเกิดของเผือก  เขาจึงจัดงานเล็กๆ ขึ้นที่บ้าน  โดยการชวนต้นหอมและจิ้งหรีดมาร่วมงานด้วย  แม้เผือกจะพยายามจัดงานให้หรูเลิศตามที่เจ๊ลิลลี่สั่งแล้วก็ตาม  แต่พ่อแม่และยายของเขากลับทำให้งานเสียด้วยการตั้งโต๊ะตำส้มตำ  ทำลาบ  จกปลาร้ากันต่อหน้าต้นหอมและจิ้งหรีด  ยายดวงบอกให้เผือกลองตำระเบิดโชว์  และสาธยายถึงความโด่งดังของส้มตำสูตรนี้ให้ต้นหอมกับจิ้งหรีดฟัง  ทำให้ทั้งคู่อยากลองชิมมาก  สุดท้ายเผือกก็ตัดสินใจถอดสูทหันมาควงสากโชว์ส้มตำระเบิดให้ทั้งสองกิน  ต้นหอมติดใจในรสชาติมากถึงกับอยากให้เผือกช่วยทำส้มตำระเบิดนี้ไปรับแขกชาวต่างชาติที่โรงแรม  เผือกตอบตกลงเพราะอยากทำคะแนนให้ต้นหอมรัก  ชื่อเสียงของเผือกดังกระฉ่อนทันทีที่ได้ออกงานแรก  หลายต่อหลายคนออร์เดอร์มาเป็นร้อยๆ ครกเพื่อนำไปจัดเลี้ยงสร้างชื่อให้โรงแรมของต้นหอม  ต้นหอมจึงทาบทามให้เผือกมาทำงานที่โรงแรมเพื่อเป็นหัวหน้าเชฟในการตำส้มตำโดยเฉพาะ  เผือกตอบตกลงมาทำงานที่โรงแรมเพื่อจะได้ใกล้ชิดต้นหอม  โดยจิ้งหรีดก็มาด้วยตามแผนของต้นหอม

วันหนึ่ง  เผือกจะไปสารภาพรักต้นหอม  แต่กลับพบว่าหญิงสาวมีแฟนเป็นนักธุรกิจชื่อดังอยู่แล้ว  เผือกเสียใจมาก  อยากจะลาออกจากงาน  แต่จิ้งหรีดห้ามไว้และให้กำลังใจชายหนุ่ม  แม้จะรู้สึกเสียใจบ้างที่รู้ว่าเผือกไม่เคยมีใจให้เธอเลย  แต่กลับมีใจให้กับต้นหอมผู้เป็นนายแทน  จากที่เคยคิดว่าจะชอบเขาเพียงเพราะเงิน  จิ้งหรีดกลับตกหลุมรักในความดีงามในจิตใจของชายหนุ่มเข้าให้แล้ว... ความใกล้ชิดของจิ้งหรีดกับเผือกเริ่มรู้ใจกันมากขึ้น  ชายหนุ่มเริ่มเห็นด้านดีของหญิงสาว  ความใสซื่อและดวงตาที่ดูเหมือนมีความนัยคู่นั้นทำให้เผือกอดรู้สึกแปลกๆด้วยไม่ได้ทั้งๆที่ในใจกลับตะโกนบอกว่าคนที่เขาต้องการนั้นคือต้นหอมคนเดียว  แต่เพราะความดีของจิ้งหรีดทำให้เผือกปฏิเสธตัวเองไม่ได้ว่ารักหญิงสาวเข้าให้แล้วเช่นกันนั่นทำให้จิ้งหรีดเริ่มรู้สึกผิดและกลัว  กลัวว่าถ้าเผือกรู้ว่าตัวเองเป็นแค่คนใช้  เขาจะรับไม่ได้  ที่สำคัญเผือกจะต้องโกรธมากที่รู้ว่าเธอหลอกลวงเขามาตลอดว่าเป็นคุณหนู  ตำระเบิดของเผือกนั้นโด่งดังไปจนทั่วสารทิศ  วันๆ หนึ่งเขาต้องตำส้มตำระเบิดไม่น้อยกว่าสามร้อยครก  ทำให้ต้นหอมเริ่มตัดสินใจสั่งซื้อมะละกอจากสวนย่านชานเมืองมา  และนั่นทำให้จิ้งหรีดได้เจอกับ “นวล” แม่ค้าขายส่งมะละกอพันธุ์ดี  ซึ่งมีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงของจิ้งหรีดอีกด้วย  จิ้งหรีดพยายามหลบหน้าหลบตานวลเพราะกลัว
นวลจะรู้ว่าเธอมาเป็นคนใช้อันต่ำต้อย  ที่สำคัญเธอกลัวว่านวลจะเปิดโปงความลับว่าตัวของจิ้งหรีดเองนั้นไม่ได้เป็นคนในครอบครัวของคุณหญิงสายสมร  เจ้าของโรงแรมแต่อย่างใด

เมื่อหลายปีก่อนจิ้งหรีดใช้ชีวิตเป็นสาวชาวสวนมะละกออยู่อย่างมีความสุข  แม้ทางครอบครัวจะไม่ได้ร่ำรวยมาก  แต่ก็พอมีพอกิน  “คม” พ่อของจิ้งหรีดเป็นคนรักครอบครัวมาก  เขาไม่เคยนอกใจ  “วรรณ”  เมียสุดที่รักเลย  แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น  เมื่อวรรณประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต คมเสียใจมาก  ดื่มเหล้าเมายาไม่ยอมทำสวนมะละกอต่อ  ภาระหนักจึงตกมาอยู่ที่จิ้งหรีดที่ต้องดูแลทุกอย่างเอง    วันหนึ่งคมได้พานวลกลับมาจากคลับในเมือง  นั่นทำให้จิ้งหรีดไม่พอใจที่พ่อของตัวเองกำลังจะมีเมียใหม่  ทั้งคู่มีปากเสียงกัน  แต่สุดท้ายจิ้งหรีดก็ต้องยอมให้พ่อพานวลเข้ามาอยู่ในไร่  ในฐานะเมียใหม่ของพ่อแรกๆ นั้น  นวลก็ทำดีกับจิ้งหรีดเพื่อให้เธอตายใจ  แต่สุดท้ายความชั่วร้ายก็ออกลาย  นวลพยายามจะเอาทุกอย่างของคมไปเป็นเจ้าของโดยใช้มารยาหญิงหลอกให้คมเซ็นโอนไร่มะละกอทั้งหมดให้กับเธอ  จิ้งหรีดไม่พอใจมากไปต่อว่าพ่อ  แต่ก็โดนตบกลับมา  ทำให้หญิงสาวน้อยใจว่าพ่อไม่ใช่พ่อคนเดิมที่เธอเคยรู้จัก  มิหนำซ้ำจิ้งหรีดยังไปรู้ความลับมาว่านวลนั้นแอบมีความสัมพันธ์ลับๆกับคนงานในสวน  เธอจะไปฟ้องพ่อ  แต่นวลรู้ตัวเสียก่อน  ทั้งคู่ตบตีกัน  แต่นวลสร้างภาพว่าถูกจิ้งหรีดรังแกก่อน  พ่อลูกจึงไม่มองหน้ากันอีกนับตั้งแต่วันนั้น  วันหนึ่ง  ข่าวร้ายก็มาเยือนจิ้งหรีดเมื่อได้รู้ว่าผู้เป็นพ่อขับรถตกเหวเสียชีวิต  เหมือนเสาหลักในชีวิตของจิ้งหรีดล้มไปเสียแล้ว  หญิงสาวถูกนวลไล่ออกจากบ้านเพราะเธอไม่มีสิทธิ์อะไรในสมบัติของพ่อเลย  จิ้งหรีดไม่มีที่ไปจึงเสี่ยงโชคชะตามาในเมืองหลวง  หวังว่าจะมาหางานทำเพื่อประทังชีวิต  แต่ทุกอย่างไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ  หญิงสาวถูกหลอกไปขายตัวในซ่อง แต่ก็เอาตัวรอดหนีออกมาได้  เคราะห์ซ้ำกรรมซัด  ดันไปถูกรถของต้นหอมชนเข้า  ดีที่จิ้งหรีดไม่เป็นอะไรมาก  ต้นหอมจึงรับจิ้งหรีดเข้ามาทำงานในบ้านด้วยความสงสาร หลังจากนั้นชีวิตของเธอก็ถูกเรียกว่า  “คนรับใช้” ตลอดมา

นวลเหมือนว่าจะเห็นจิ้งหรีดแวบๆ  จึงตามไป  สุดท้ายจึงรู้ว่าจิ้งหรีดอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้  และยิ่งแปลกใจเมื่อเผือกแนะนำว่าจิ้งหรีดคือน้องสาวของต้นหอม  เจ้าของโรงแรมแห่งนี้  นวลแอบหมายตาเผือกไว้  คิดจะเปิดโปงความจริงว่าจิ้งหรีดไม่ใช่คนในครอบครัวของต้นหอม  แต่ต้นหอมรู้ทันเสียก่อน  จึงยื่นข้อเสนอว่าถ้าปิดเรื่องนี้เป็นความลับ  เธอจะเป็นลูกค้ามะละกอของนวลตลอดไป  และจะติดต่อโรงแรมของเพื่อนๆ ที่รู้จักให้ด้วย  นวลตกลงแต่ยังไม่เลิกหมายตาเผือก  เพราะถูกตาต้องใจเหลือเกินความลับเรื่องของจิ้งหรีดดำเนินต่อไป  พร้อมกับความรักของคนทั้งคู่  ช่วงนี้ยายดวงเจ็บออดๆแอดๆ  เผือกให้ไปตรวจร่างกายก็ไม่ยอมไป  ตัวเขาเองก็ยุ่งอยู่ที่โรงแรม  ผึ้งเองก็กลับบ้านดึกๆดื่นๆ  อ้างว่าติดกิจกรรมของทางมหาวิทยาลัย  ส่วนรำจวญกับทองมีไม่ต้องพูดถึง  วันๆ มุดหัวอยู่แต่ในบ่อนถ้าเงินไม่

หมดไม่กลับมาบ้าน  บ่อยครั้งที่ยายดวงต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง  หญิงชราเริ่มไม่ชอบความมั่งมีที่ได้มาเสียแล้วหากการมีเงินแล้วต้องเหงาแบบนี้  เธอขอกลับไปจนแล้วอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างเดิมเสียดีกว่า

หลังจากได้ติดต่อกับเผือกที่โรงแรมบ่อยครั้ง  นวลเริ่มสืบเสาะหาที่อยู่ของเผือก  เธอมักเอาของกำนัลมาฝากเผือกอยู่บ่อย ๆ ซึ่งทำให้จิ้งหรีดไม่พอใจเป็นอย่างมาก  ทั้งคู่มีปากเสียงกันทุกครั้งที่ได้เจอหน้าจนเผือกเริ่มจะสงสัยว่าทั้งคู่ว่าน่าจะเคยรู้จักกันมาก่อน  แต่จิ้งหรีดก็ยังปิดบังความลับเรื่องระหว่างเธอกับนวลไว้  วันหนึ่งมีแก๊งค์มาเฟียโทรมาหาเผือกบอกให้เอาเงินสิบล้านไปไถ่ตัวทองมีกับรำจวญที่ไปเสียไฮโลที่ชายแดน  ชายหนุ่มจำเป็นต้องเบิกเงินที่ร่อยหรอไปช่วยพ่อและแม่  เขาเริ่มจะเครียดแล้วเพราะเงินที่ได้จากการถูกล็อตเตอรี่ครั้งนั้นใกล้หมดลงทุกทีเนื่องจากคนในบ้านต่างใช้เงินราวกับเป็นเศษกระดาษ

เรื่องราวระหว่างนวลกับจิ้งหรีดเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น  ทั้งสองมีปากเสียงกันในขณะที่เผือกแอบฟังอยู่  จึงได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วนวลเป็นแม่เลี้ยงของจิ้งหรีดนั่นเอง  นั่นทำให้ชายหนุ่มงงว่าในเมื่อจิ้งหรีดเป็นน้องสาวของต้นหอม แล้วทำไมมีแม่เลี้ยงเป็นนวล  หรือสามีของคุณหญิงสายสมรจะไปแต่งงานใหม่  และแล้วความลับทั้งหมดก็ถูกเปิดเผยเมื่อคุณหญิงสายสมรกลับมาเมืองไทย  แล้วเห็นนวลกับจิ้งหรีดกำลังทะเลาะกันอยู่หน้าบ้านจึงเข้าไปต่อว่า  ความลับที่ว่าจิ้งหรีดไม่ใช่ลูกสาวคุณหญิงสายสมรและมีหน้าที่เป็นเพียงคนรับใช้จึงถูกเปิดโปงขึ้น  นั่นทำให้เผือกโกรธหญิงสาวมากไม่ยอมพูดด้วยเพราะเขาเกลียดการโกหกที่สุด  ส่วนจิ้งหรีดเองกลับคิดว่าที่เผือกโกรธเธอนั้นเพราะรู้ว่าเธอเป็นแค่คนรับใช้  ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนที่ได้สร้างภาพมา  เผือกอาจไม่ได้รักเธอเพราะจิตใจ  แต่เป็นเพราะที่ความหรูหราและความมีเกียรติมากกว่า  ผึ้งขออนุญาตไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนๆ ที่คณะ  ซึ่งรดากับเพื่อนๆวางแผนไว้แล้วว่าจะทำให้ผึ้งเสียคนก็คราวนี้  ด้วยการวางแผนให้ผู้ชายในคณะจัดการพาผึ้งไปรุมโทรม  เฉิ่มรู้เรื่องเข้าก็ไปเตือนผึ้งแต่ถูกผึ้งตอกหน้ากลับมาว่าไม่หวังดี  เฉิ่มเองอดเป็นห่วงผึ้งไม่ได้จึงลงทะเบียนไปเที่ยวในครั้งนี้ด้วยแล้วก็เป็นจริงดังที่เขาได้ยินมา  เมื่อผึ้งจะถูกผู้ชายสามคนจะพาไปข่มขืน  แม้นับหนึ่งเองจะอยู่บริเวณนั้นแต่กลับหนีเอาตัวรอด  เฉิ่มแสดงความรักด้วยการสู้สุดชีวิตจนตัวเองสะบักสะบอม  ในที่สุดตำรวจก็มาจับคนร้ายได้แล้วซักทอดไปถึงรดา  ทำให้รดาถูกตำรวจจับไปด้วย  ข่าวออกทีวีครึกโครม  ในขณะที่เผือกกับยายดวงกำลังนั่งดูอยู่  ทั้งคู่ตกใจมากโดยเฉพาะยายดวงถึงขั้นเป็นลมหมดสติไป  เผือกรีบนำตัวยายดวงส่งโรงพยาบาล  หมอบอกว่ายายดวงเป็นโรคหัวใจตีบต้องรีบผ่าตัดด่วน  เผือกจึงยอมให้หมอผ่าตัดยายดวง  ผึ้งเองรู้เรื่องก็ให้เฉิ่มรีบพากลับมา  เช่นเดียวกับทองมีและรำจวญที่ยอมทิ้งไพ่มาดูใจแม่ หมอบอกให้ทำใจไว้เพราะโอกาสรอดมีแค่ 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น  ที่สำคัญค่าใช้จ่ายสูงมาก  เงินที่เผือกเหลือเก็บตอนนี้มีไม่พอ  ท้ายสุดแล้วชายหนุ่มตัดสินใจเอาบ้านไปจำนองไว้กับธนาคารเพื่อนำเงินก้อนสุดท้ายมารักษาผู้เป็นยาย ทั้งหมดเพิ่งเข้าใจว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าคนในครอบครัวอีกแล้ว...

เมื่อผ่านเรื่องราวของ “คนมีเงิน” มามากมายทำให้ทุกคนรู้ว่าชีวิตมันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดเอาเสียเลย  แม้จะชอบความหรูหราของคนมีเงิน  แต่พวกเขากลับรักที่จะอยู่กันอย่างอบอุ่นแบบเดิมมากกว่า

ผึ้งได้เรียนรู้ว่าชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อฟู่ฟ่าของสังคมเมืองหลวงนั้นไม่ได้ดีไปเสียทุกอย่าง  การมองคนเพียงแค่หน้าตากลับทำให้เธอเกือบเอาชีวิตไม่รอด  มองคนต้องมองที่จิตใจเหมือนที่เธอเคยเรียนรู้มาก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ  ทองมีกับรำจวญที่ก่อหนี้ก่อสินไว้มากมายก็เริ่มสำนึก  เผือกเอาเงินที่เหลือไปใช้หนี้ให้พ่อกับแม่ทั้งหมด  ทั้งสองขอโทษลูกชายที่ทำตัวไม่ดีมาตลอด  และสัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น  ยายดวงปลอดภัย  แต่ยังต้องกินยารักษาตัวอีกเดือนละหลายแสนบาท  เผือกตัดสินใจขายบ้าน รถ  และทรัพย์สินทุกอย่างเพื่อเก็บเงินไว้ใช้ยามจำเป็น  ทั้งห้าตกลงกันแล้วว่าชีวิตในเมืองหลวงช่างไม่เหมาะกับคนบ้านนอกอย่างพวกเขาจึงจะกลับไปตั้งต้นชีวิตใหม่ที่บ้านนอกที่เคยจากมา แม้ที่บ้านนอกจะไม่หรูหราไม่ศิวิไลซ์เหมือนในเมืองหลวง  แต่ที่นั่นทำให้เขาได้รู้สึกถึงคำว่า  “ครอบครัว” อย่างเต็มที่  ผึ้งไปกล่าวลาเฉิ่มว่าอาจไม่เจอกันอีกแล้วชาตินี้เพราะเธอจะกลับไปเรียนต่อที่บ้านนอก  เฉิ่มเองก็เสียใจแต่ก็ยอมให้หญิงสาวไป  เพราะเคารพการตัดสินใจของผึ้ง  จิ้งหรีดรู้ข่าวจากยายดวงว่ากำลังจะย้ายกลับบ้านนอกกันทั้งครอบครัวก็ใจหาย  ใจหนึ่งก็อยากจะขอโทษเผือก แต่อีกใจมันก็มีอคติ  เลยทำปากแข็งว่าไม่รู้สึกอะไรกับการจากไปของชายหนุ่ม  เช่นเดียวกับเผือกเอง  เขาก็อยากบอกลาจิ้งหรีดเป็นครั้งสุดท้าย  แต่เห็นว่าหญิงสาวทำเฉยชา  จึงตัดสินใจจากไปโดยไม่มีการปรับความเข้าใจกัน  ทั้งหมดกลับมาตั้งหลัก      ที่บ้าน  เผือกเจียดเงินมาทำร้านอาหารอีสานเล็กๆทำมาหากินเพื่อประทังชีวิตโดยมีรำจวญคอยช่วยลูกชาย  ส่วนผึ้งได้โอนหน่วยกิตมาเรียนต่อราชภัฏในตัวเมือง  ทางด้านทองมีก็ทำสวนทำไร่เล็กๆน้อยๆและมีหน้าที่คอยดูแลยายดวงในฐานะลูกเขยที่ดีที่เขาไม่เคยได้ทำมาเลยตลอดชีวิต

วันหนึ่งผึ้งไปเจอกับเฉิ่มโดยบังเอิญ  โชคชะตาเหมือนเป็นใจเพราะเฉิ่มกลับมาเยี่ยมบ้าน  ซึ่งอยู่จังหวัดเดียวกันกับผึ้ง  บ้านของเฉิ่มนั้นเป็นร้านค้าส่งปุ๋ยและค้าข้าวรายใหญ่ของจังหวัด  ชายหนุ่มไม่ได้จนอย่างที่ผึ้งคิดไว้เลย  เพียงแต่เฉิ่มเป็นคนไม่ฟุ้งเฟ้อ  ไม่เคยหลงไปกับเงินทองมากมาย  นั่นทำให้ผึ้งละอายใจมาก  แต่เฉิ่มก็ให้อภัย  ทั้งคู่ตัดสินใจคบกันโดยให้พ่อแม่ของแต่ละฝ่ายมาผูกมิตรกันไว้  แม่ของเฉิ่มนั้นเป็นลูกค้าประจำร้านตำระเบิดของเผือกมานานก็ปลื้มใจ ไม่ได้รังเกียจในความจนของครอบครัวของผึ้ง  แต่กลับชื่นชมในความขยันขันแข็งซะอีก  จึงขอหมั้นหมายผึ้งให้เฉิ่มไว้  ถ้าทั้งคู่เรียนจบจะให้แต่งงานกัน

ทางด้านเผือกเองแม้จะทำใจให้ลืมจิ้งหรีด  แต่เขาก็ทำไม่ได้   เช่นเดียวกับจิ้งหรีดที่ยังคงเหม่อลอยคิดถึงเผือกเสมอ  หญิงสาวรู้ตัวแล้วว่าผิดและไม่ควรถือตัวทำปากแข็งไม่ยอมขอโทษชายหนุ่ม  แต่กว่าจะคิดได้ก็สายไปเสียแล้ว  เธอไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน  ยายอิ่มรู้ทันทีจึงเอาที่อยู่บ้านของยายดวงให้จิ้งหรีด

เธอขอไว้ก่อนที่ยายดวงจะกลับไปบ้านนอก  เผื่อมีเวลาจะได้ไปเยี่ยมเยียน  จิ้งหรีดตัดสินใจขึ้นรถไปหาเผือกทันที  หญิงสาวได้เจอเผือกที่ร้านตำระเบิด  ทั้งคู่ต่างปรับความเข้าใจกัน  และสารภาพความในใจของกันและกันทั้งหมด  จิ้งหรีดอาสาจะอยู่ที่นี่ช่วยเผือกดูแลร้าน  เผือกบอกกับเธอว่าเขาไม่ได้มั่งมีเหมือนเมื่อก่อน  ถ้าจิ้งหรีดอยู่ด้วยจะลำบาก  แต่จิ้งหรีดไม่กลัว  เธอพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างชายหนุ่มคนที่เป็นเจ้าของหัวใจเธอตลอดไป  ต่อให้รวยล้นฟ้าแค่ไหน  ถ้าไม่มีความสุขเธอก็ไม่เอา ขอแค่มีความรักและความอบอุ่นเท่านั้นก็ “พอเพียงแล้วสำหรับชีวิตนี้”

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark