รวบแล้วคนร้ายบุกจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ชิงเหล้า-เบียร์ อ้างเครียดปัญหาชีวิต
ประเด็นเด็ด 7 สี - ตำรวจรวบตัวคนร้ายที่ควงมีดบุกจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ชิงเหล้า-เบียร์ และขู่จะทำร้ายลูกค้าที่กำลังเข้าไปซื้อของในร้าน อ้างเครียดปัญหาชีวิต
กล้องวงจรปิดบันทึกภาพชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีลักษณะคล้ายคนเมาเหล้า คนขี่สวมเสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงยีน สวมรองเท้าผ้าใบ มือถือมีด ส่วนคนซ้อนสวมเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงยีน สวมรองเท้าผ้าใบ สะพายเป้ โดยทั้งสองคนใช้หมวกไหมพรมปิดบังอำพรางใบหน้า เดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ
กล้องวงจรปิดภายในร้านบันทึกภาพขณะชายชุดดำวิ่งโซเซไปที่ตู้แช่เบียร์ หยิบเบียร์ใส่เป้แล้วตรงไปหยิบขนมขบเคี้ยว ก่อนจะรีบวิ่งออกไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาเกือบเที่ยงคืนที่ผ่านมา ภายในร้านสะดวกซื้อที่ซอยติวานนท์ 3 แยก 15 พื้นที่ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี
โดยพนักงานร้านสะดวกซื้อที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุคนร้ายใช้มีดจี้พนักงานที่เคาน์เตอร์ให้หยิบเงินให้ แต่เนื่องจากเพิ่งเก็บเงินใส่ตู้เซฟ ในลิ้นชักจึงไม่มีเงินเหลือ คนร้ายจึงเอาเหล้าไปแทน ส่วนคนร้ายอีกคนก็ไปหยิบเบียร์และขนมขบเคี้ยว เมื่อเห็นลูกค้าเริ่มเข้ามาในร้าน จึงพากันหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนพบว่า คนร้ายทั้ง 2 คน เป็นพนักงานปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 800 เมตร จึงได้ขอหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี เข้ารวบตัวที่บ้านพักคนงานหลังปั๊มน้ำมัน ริมถนนติวานนท์ ในพื้นที่ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี พร้อมของกลางมีดทำครัว 2 เล่ม สุราที่ชิงไปจากร้านสะดวกซื้อ 1 ขวด
กระทั่ง 16.00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจได้คุมตัวคนร้ายทั้ง 2 คน คือ นายฉัตรมงคล ดวงสุรินทร์ อายุ 23 ปี ชาวจังหวัดลำพูน และนายสมชาย คำปัน อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย มาสอบปากคำที่ สภ.เมืองนนทบุรี
ทั้ง 2 คน รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุ อ้างเครียดเรื่องถูกนายจ้างดุด่า โดยก่อนที่จะก่อเหตุที่ร้านสะดวกซื้อ พวกเขาคิดจะก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ปั๊มน้ำมันที่เขาทำงานอยู่ แต่รู้ว่าเจ้าของปั๊มมีปืนจึงเปลี่ยนใจไปก่อเหตุที่ร้านสะดวกซื้อแทน เนื่องจากต้องการเบียร์และสุรามาดื่มให้หายเครียด
หลังสอบสวนเสร็จ ตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธและโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดการพาทรัพย์ หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และร่วมกันพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ก่อนส่งตัวดำเนินคดีต่อไป
