คลิปที่เกี่ยวข้อง

คลังภาพซุปตาร์ : เปิดคลิปแก๊งค์เพื่อน ลิเดีย-แมทธิว ส่งกำลังใจ หลังเข้ารักษาอาการติดเชื้อ โควิด-19


ยังคงได้รับพลังดีๆ และกำลังใจท่วมท้นจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทั้งในและนอกวงการบันเทิง สำหรับครอบครัวสายสตรองอย่าง ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ และ แมทธิว ดีน หลังจากที่ทั้งคู่ต้องถูกแยกตัวจากลูกๆ เพื่อเข้ารับการรักษาอาการป่วยจาก เชื้อไวรัส โควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ทั่วทุกมุมโลก ณ ขณะนี้

และแน่นอนว่า ในตอนที่เรากำลังป่วยสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้ในด้านของการเข้ารักษาอย่างถูกวิธี ก็ต้องเป็นกำลังใจดี ๆ จากคนรอบข้างเนี่ยละค่ะ และงานนี้ในระหว่างที่ทั้งสาว ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ และคุณสามี แมทธิว ดีน กำลังรักษาตัวจากอาการป่วยเพราะเชื้อ โควิด-19 เหล่าเพื่อนพ้องที่เฝ้าติดตามข่าวคราว เลยขอรวมกลุ่มกันทำคลิป เพื่อส่งกำลังใจให้กเธอและครอบครัว มีพลังสู้กับเชื้อ โควิด-19 และหายป่วยในเร็ววัน

งานนี้สาว ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ เลยขอแชร์โมเม้นท์ประทับใจนี้บนอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมข้อความว่า "ดีต่อใจเหลือเกิน ขอบพระคุณทุกๆคนมากๆจากใจของพวกเราเลยค่ะ  Thank you so much for this. It really means so much. Really really appreciate this รักทุกคนมากๆ Love you guys" จะซึ้งขนาดไหน ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ แต่แอบกระซิบสักนิดนะคะว่า ตอนที่แอดดูรอบแรกเนี่ย มีซับน้ำตากันเลยทีเดียว อินสุดดดดด

BUGABOO ENTERTAIN / ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม @lydiasarunrat และ @matthew.deane1





 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

แชร์ข้อมูลค่ะ: หลังจากที่ต้องแยกกันมาอาทิตย์กว่า ตอนนี้เดียกับพี่แมทได้อยู่ด้วยกันแล้วค่ะ มีกำลังใจดีขึ้นเยอะค่ะ อาการช่วงแรกของเดียที่เข้าโรงพยาบาลคือไม่เป็นอะไรเลยที่บ่งบอกชัดเจนว่าเป็นหวัด ไม่เจ็บคอแล้ว ไม่มีน้ำมูกเลย ไม่ไอ แต่มีไข้ 37กว่า ก็เลยทำให้คิดว่ากำลังจะหาย จากการ Xray วันแรกก็ไม่เห็นอะไรในปอด สัญญาณทุกอย่างดีหมด แต่คุณหมอท่านสั่งทำ CT scan วันรุ่งขึ้น ผลออกมาคือไวรัสเข้าไปในปอดแล้ว แต่ไม่แสดงอาการเลย เดียไม่หอบ ไม่เหนื่อย ระดับออกซิเจนดีหมด แต่ปอดเริ่มอักเสบ เดียถูกย้ายไปไอซียูเพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดและเริ่มทานยาทันที เดียรู้สึกแข็งแรงดีทุกอย่าง หายใจได้ ไม่มีอาการหวัด แต่มีผลข้างเคียงจากยาที่ทานเพราะค่อนข้างแรงและเยอะ อาการจากยาก็จะมีเวียนหัว คลื่นไส้ ท้องเสีย ไม่อยากอาหาร และตามัวเหมือนสายตาสั้น ก็ต้องพยายามทานข้าวให้ได้เพื่อจะได้ทานยา หลังจากเริ่มยาและอยู่ไอซียูมา 5 วัน เดียไม่มีไข้แล้ว สัญญานทุกอย่างดี Xray ปอดดูไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ก็ได้ย้ายออกจากไอซียู ตอนนี้ได้อยู่ด้วยกันกับพี่แมทแล้วค่ะ อาการของพี่แมทแตกต่างจากเดีย พี่แมทไปถึงโรงพยาบาลวันแรกๆมีไข้และคัดจมูกและมึนๆหัวนิดหน่อย แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีไข้ไปอีก3วัน ตอนนั้นไม่ได้ทานยา ก็คิดว่าเริ่มดีขึ้น แล้วปล่อยให้หายเองได้ แต่หลังจากนั้นไข้กลับมาใหม่และท้องเสียหมอรีบ Xray ก็พบว่าเร่ิมมีอาการปอดอักเสบเหมือนเดีย พี่แมทจึงเข้า ICU และเริ่มยาทันที หลังจากกินยา ตอนนี้ทั้งคู่ไม่มีไข้แล้ว และออกจากไอซียูแล้ว ตอนนี้คุณหมอและพยาบาลทำงานกันหนักโดยที่ไม่ได้กลับบ้านกันเลย ขอความร่วมมือจากทุกคนให้อยู่บ้าน อย่าออกไปรวมตัวกันเป็นกลุ่มข้างนอก ถ้าจำเป็นต้องออกก็ขอให้ใช้ความระมัดระวัง พยายามหลีกเลี่ยงที่ๆคนเยอะๆ ช่วยกันนะคะ เราจะได้ผ่านมันไปได้ค่ะ @matthew.deane1

A post shared by Lydia Sarunrat Deane (@lydiasarunrat) on


 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

สู้ 

A post shared by Lydia Sarunrat Deane (@lydiasarunrat) on


 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

16 มีนาคม 2563 จะเป็นวันที่จดจำไปตลอดชีวิต ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาค่ะ มันคือพลังให้เราต้องสู้ ขอส่งกำลังใจให้กับผู้ติดเชื้อ CoVid19 ทุกคน เราจะสู้รบไปพร้อมๆกัน เราจะไม่มีคำว่าพ่ายแพ้ #โควิด19เราต้องรอด สุขสันต์วันครบรอบแต่งงาน 5 ปีของเรานะคะคุณสา @matthew.deane1 และวันนี้เจ้าแป๋วแหววก็อายุ 7 เดือนเต็มแล้ว @demi_deane คิดถึงพี่ยักษ์ที่สุดเลย @dylandeane_official March 16th, 2020 I will remember today for the rest of my life. Thank you for all of the support that is making us strong to fight. Sending love and support to everyone who has CoVid19. We will fight in this war together. There will be no surrendering. Happy 5th Anniversary to my other half and Happy 7 months to little Demi  Missing Mr. Dylan so much @dylandeane_official

A post shared by Lydia Sarunrat Deane (@lydiasarunrat) on


 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

สิ่งที่สำคัญคือต้องตั้งสติให้ดีที่สุดในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ ต้องรับมือและสู้ต่อไป สิ่งที่ยากที่สุดคือการร่ำลาครอบครัวและลูกๆ ต้องให้ลูกๆทั้งสองคนอยู่โดยที่ไม่มีทั้งพ่อและแม่ไปอีกไม่รู้นานแค่ไหน แต่อย่างน้อยก็ยังมีคุณยายคุณตาที่ยังอยู่กับเขา หวังว่าเดมี่จะไม่ลืมแม่ หวังว่าดีแลนจะไม่โกรธที่พ่อแม่อยู่ๆก็หายไป เดี๋ยวหม่ามี๊กับแดดดี๊จะกลับมานะลูก ห้ามร้องไห้เพราะน้ำตาอาจมีไวรัส #covid19 #โควิดเราต้องรอด ข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อทุกคน: 1.สิ่งที่รู้ตอนนี้คือเดียติดจากพี่แมท ส่วนใหญ่ทุกเคสที่ติดCoVid19 คนใกล้ชิดอย่างสามีภรรยามีโอกาศติดสูงมาก เดียไม่ได้ออกไปไหน เดียติดจากในบ้าน ดีแลนผลคือ undetectable เดมี่ไม่ได้เอาไปตรวจเพราะกลัวว่าอาจไปรับเชื้อจากข้างนอก ตอนนี้ทั้งสองคนอาการปกติ ร่าเริง เล่น กิน นอน แข็งแรงดีค่ะ รอเฝ้าดูอาการต่อไป 2. คนอื่นๆที่ใกล้ชิด (ครอบครัว, เพื่อน, พนักงานร้านอาหารและค่ายมวย) ผลลบ undetectable แต่ถึงแม้จะลบ ข้อแนะนำคือเฝ้าดูอาการ ถ้ามีอาการเหมือนจะเริ่มเป็นหวัด หรือมีไข้ให้ไปตรวจซ้ำ ระหว่างนี้การปฏิบัติของคนในบ้านที่เฝ้าระวังอยู่คือ ให้คิดซะว่าทุกคนเป็นพาหะโรคนี้ ป้องกันให้มากที่สุด ควบคุมวิธีการแพร่ให้น้อยที่สุด ใส่หน้ากาก ล้างมือ อย่าใช้ช้อนร่วมกัน ระวังน้ำตา น้ำลาย คือคุณต้องมีไวรัสในจำนวนที่วัดได้ถึงจะมีผลว่าบวก ขอย้ำว่าการตรวจได้ผล undetectable ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มีไวรัส คนที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด 3.อาการแรกของเดียคือ คัดจมูก ไอแห้งๆไม่มีเสมหะ ไข้ 38 แต่ไม่ได้รู้สึกแย่ แค่รู้สึกเหมือนจะเริ่มเป็นหวัดหรือเป็นภูมิแพ้ ทั้งหมดนี้เริ่มเมื่อคืนวันที่ 13 และตลอดทั้งวันที่14 ตอนนี้ทานยาลดไข้และวิตามินต่างๆ ระหว่างที่รอผลกลับมา เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงที่สุด ตอนนี้ยังไม่มียาป้องกันหรือว่ารักษาโควิดอย่างเป็นทางการเพราะมันยังใหม่มากๆแนวทางรักษาคือถ้าอาการไม่หนักมากก็พยายามปล่อยให้ร่างกายขับไล่มันออกไปเอง แต่ถ้าเกิดใครเริ่มมีปัญหาเช่นปอดบวมหรือ ปัญหาอื่นๆหมอจะให้ยาทันทีซึ่งยาที่จะใช้ก็แล้วแต่สูตรของหมอและโรงพยาบาล 4.อาการของพี่แมทตอนนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ไม่มีไข้แล้ว มีการ X-ray ปอดเพราะตัวเค้าเป็นภูมิแพ้และหอบ. ซึ่งหมอบอกว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ยังไงต้องคอยเช็กตลอด 5.ตอนนี้การหาเตียงสำหรับการรักษาไม่ง่ายค่ะ ถ้าใครตรวจแล้วพบเชื้อ คอยโทรถามกับทางสปคม ว่าเค้ากำลังประสานงาน และหาโรงพยาบาลให้อยู่

A post shared by Lydia Sarunrat Deane (@lydiasarunrat) on


 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

พี่แมทขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจและเป็นห่วงทั้งครอบครัว พี่แมทขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน ขอชี้แจงรายละเอียดดังต่อไปนี้นะคะ: 1.พี่แมทแทบจะไม่มีอาการเลย ไม่มีนำ้มูก ไม่มีไอ ไม่เจ็บคอ แต่เบื้องต้นเมื่อ 2 วันที่แล้ว ปวดเมื่อยเล็กน้อย (เข้าใจว่าจากออกกำลังกาย เพราะวันอาทิตซ้อมหนักกลางแดด) ตามมาด้วยการคัดจมูกนิดหน่อยเหมือนเป็นภูมิแพ้ธรรมดาที่เค้าเป็น แต่วันต่อมาพี่แมทก็เป็นไข้อ่อนๆ 36.9 - 37กว่า เลยไปเช็คที่ร.พ. เผื่อจะเป็นอะไร เมื่อถึงหน้าโรงพยาบาลก็จะมีการยิงปืน laser เพื่อวัดอุณหภูมิ ของพี่แมทบอกว่าไม่มีไข้ แต่ด้วยการที่เค้าไม่ค่อยเชื่อในความแม่น laser เค้าเลยขอตรวจอย่างละเอียด และผลตรวจคือ 38.3 มีไข้ (เพราะฉะนั้นการตรวจโดยปืนยิงเลเซอร์แบบนี้ตามที่ต่างๆอาจจะไม่ได้แม่นยำเท่าไหร่นัก) พี่แมทไปตรวจเมื่อวานนี้คือวันที่ 12 มีนาคม 2563 2.ขั้นตอนต่อไปหลังจากรู้ว่ามีไข้คือ swab จมูกเพื่อตรวจว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ไหม ผลรู้ภายใน 1ช.ม. ซึ่งพี่แมทไม่เป็นไข้หวัดใหญ่ คุณหมอให้ตรวจต่อ Virus อีก 21 สายพันธุ์ ผลรู้ภายใน 8 ช.ม. แต่คุณหมอแนะนำต่อให้ตรวจเช็ก CoVid19 เพิ่ม ซึ่งผลจะรู้วันรุ่งขึ้น คุณหมอส่งตัวพี่แมทกลับบ้านพร้อมคำแนะนำการปฏิบัติเบื้องต้น เราจ่ายค่าตรวจไปทั้งหมด หมื่นกว่าบาท. (แล้วคนที่ไม่สามารถจ่ายเท่านี้จะมีการตรวจไหม?) 3.กลับมาถึงบ้านพี่แมทแยกตัวออกจากทุกคนในบ้านเพื่อป้องกันไว้ก่อนระหว่างที่รอผล พี่แมทสั่งปิดค่ายมวยทันทีเผื่อว่าผลออกมาว่าเป็นบวก คืนนั้นก็ทราบผลว่า 21 สายพันธุ์ไม่ได้เป็น ต้องรอผล CoVid19 วันรุ่งขึ้น ซึ่งช่วงตอนกลางวันที่ผ่านมาก็ได้รับการยืนยันว่าเป็น (13 มีนาคม 2563) 4.มันคือการรับผิดชอบต่อทุกคนและต่อสังคมที่จะต้องแจ้งให้ทราบนะ เพราะคนที่เจอเราและคนอื่นๆจะได้เฝ้าระวังและป้องกันปฏิบัติในทางที่ดีที่สุด ปัญหาตอนนี้คือ เราควรระวังกันกี่ต่อ? คนที่เจอพี่แมทต้องกักตัว แล้วคนที่เจอเดียต้องกักตัว แล้วคนที่เจอคนที่เจอเดียต้องกักตัวไหม? ใครบ้างที่ควรไปตรวจ? ต้องรอมีอาการก่อนไหม? อันนี้ไม่โทษใคร หรือคิดว่าใครจะมีคำตอบนะแต่แค่ระบายถึงปัญหาของโรคใหม่ที่มีข้อมูลน้อย 5.ตอนนี้พี่แมทได้มีรถมารับไปที่โรงพยาบาลเรียบร้อย ทางครอบครัวไม่สามารถเยี่ยมหรือเจอได้เท่าที่เจ้าหน้าที่บอก ต้องอยู่เฝ้าดูแลรักษาจนกว่าจะตรวจแล้วไม่พบเชื้อ 6.ทางครอบครัวทุกคนจะไปตรวจวันพรุ่งนี้ ตอนนี้คนในครอบครัวยังไม่มีอาการ ไม่มีไข้ ลูกๆยังปกติ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบค่ะ ดูแลตัวเองด้วยนะคะ มันใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด และจำนวนของคนที่เป็นคงมากกว่าที่เรารู้ (please help translate to English)

A post shared by Lydia Sarunrat Deane (@lydiasarunrat) on



 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

ไม่ “เกียมัว” ก็ให้มันรู้ไป! @matthew.deane1

A post shared by Lydia Sarunrat Deane (@lydiasarunrat) on


 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

The Deanes @matthew.deane1 @demi_deane @dylandeane_official #SonevaOhLaLa

A post shared by Lydia Sarunrat Deane (@lydiasarunrat) on


 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

My Valentine @matthew.deane1 #chefjefframsey #kintsugibangkok

A post shared by Lydia Sarunrat Deane (@lydiasarunrat) on



ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark