สั่งเด้งตำรวจ 3 นาย จับชาวประมงหอยแครง รีดเงิน 5 ล้านบาท
เช้านี้ที่หมอชิต - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 สั่งย้ายตำรวจสืบสวน 3 นาย หลังจับชาวประมงหอยแครง แล้วรีดเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี จนถูกชาวบ้านล้อม ไม่ยอมให้ออกนอกพื้นที่
ชาวบ้านกว่า 200 คน ปิดล้อมไม่ยอมให้รถยนต์สีขาวออกจากพื้นที่ เพราะภายในรถมีชายที่อ้างเป็นตำรวจ 3 คนนั่งอยู่ หลังทั้ง 3 คนใช้ปืนบังคับจับตัว นายอนุชา บินมุซา อายุ 46 ปี ชาวประมงพื้นบ้าน และข่มขู่รีดเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 20 พฤษภาคม ในชุมชนบ้านสำโรง ตำบลท่าทองใหม่ อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีช่วงหนึ่งชาวบ้านไม่พอใจอย่างมาก พยายามกดดันให้คนที่อ้างว่าเป็นตำรวจ ลงจากรถด้วย
ด้านผู้กำกับการ สภ.กาญจนดิษฐ์ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าเจรจากับกลุ่มชาวบ้าน สอบสวนนายอนุชา ทราบว่าก่อนเกิดเหตุมีชาย 3 คน ขับรถสีขาวคันดังกล่าวเข้ามา อ้างเป็นตำรวจ ใช้ปืนจับเขาและคนงานอีก 2 คน ที่กำลังรับซื้อลูกหอยแครงจากชาวประมงพื้นบ้าน ที่ลงไปตักลูกหอยแครงที่อยู่ตามธรรมชาติ ในพื้นที่อนุรักษ์เขตชายฝั่ง 1,000 เมตร ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดพื้นที่เขตอนุรักษ์บริเวณตำบลคลองฉลาก-ตำบลบางชนะ ให้กลุ่มชาวประมงเข้าไปจับมาขายสร้างรายได้ในช่วงโควิด-19
โดยทั้ง 3 คน ได้ยึดลูกหอยแครงอายุประมาณ 1 เดือน จำนวน 23 กระสอบ น้ำหนัก 700 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 500,000 บาทไป อ้างว่าทำผิดกฎหมาย พร้อมบังคับให้นายอนุชาขึ้นรถ และขู่รีดเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ทำให้กลุ่มชาวประมงนับร้อยคนที่กำลังนำลูกหอยแครงมาขาย และเห็นเหตุการณ์ เกิดความไม่พอใจ
ต่อมา นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว อดีตกำนันตำบลทุ่งกง อำเภอกาญจนดิษฐ์ เข้ามาช่วยเจรจา โดยชาวบ้านเรียกร้องให้ตรวจสอบว่าทั้ง 3 คนเป็นตำรวจจริงหรือไม่ หากเป็นตำรวจจริง ให้ผู้บังคับบัญชาสั่งย้ายออกนอกพื้นที่ และสอบสวนทางวินัย ต่อมาชาวบ้านจึงปล่อยให้ทั้ง 3 คนออกจากพื้นที่ พร้อมตะโกนไล่ และห้ามไม่ให้เข้ามาในพื้นที่อีก
จากการตรวจสอบพบว่าชายทั้ง 3 คน เป็นตำรวจจริง สังกัดกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และล่าสุดจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีกลุ่มชาวบ้านเข้ามาแจ้งความ หรือลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน ถึงกรณีที่เกิดขึ้น
ต่อมา พลตำรวจโท จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 มีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 3 นาย มาปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีจริง จะลงโทษทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด
มีรายงานว่าตำรวจทั้ง 3 นาย ลงพื้นที่สืบสวนคดีทั่วไป และเข้มงวดกวดขันเรื่องการทำผิดกฎหมายประมงในพื้นที่เขตอนุรักษ์ 1,000 เมตร จากชายฝั่ง ที่อนุญาตให้ชาวประมงเก็บลูกหอยแครงมาขายด้วยการใช้มือ หรือตะแกรงตัก แต่หากใช้คราดก็ถือว่าทำผิดกฎหมาย ซึ่งต้องรอผลสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร