ข่าวในหมวด ประเด็นเด็ด 7 สี

รวบแล้วหนุ่มใช้ไม้ทุบศีรษะเพื่อนสนิทดับ อ้างอีกฝ่ายหาเรื่องก่อน

ประเด็นเด็ด 7 สี - ความคืบหน้ากรณีชายอายุ 39 ปี ถูกคนร้ายทุบศีรษะเสียชีวิต บริเวณถนนในหมู่บ้าน พื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยผู้ต้องสงสัยเป็นเพื่อนสนิท ซึ่งมีคนเห็นขณะกำลังล้างมือเปื้อนเลือด ล่าสุดตำรวจรวบตัวผู้ก่อเหตุได้แล้วพร้อมนำตัวมาสอบสวนสาเหตุที่ลงมือ ติดตามจากรายงานของคุณธัญญารัตน์ ถาม่อย

ค่ำวานนี้ (5 ก.ค.) ตำรวจ สภ.นาข่า เข้าตรวจสอบเหตุ พบศพนายไพศาล เตี๋ยเพชรดี อายุ 39 ปี บริเวณถนนในหมู่บ้าน พื้นที่ตำบลบ้านขาว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี สภาพศีรษะถูกตีด้วยของแข็งเป็นแผลฉกรรจ์ นอนจมกองเลือด ข้างศพมีหลอดพลาสติกใสตัดเป็นชิ้นยาวประมาณ 2 นิ้วใส่เศษรำข้าว ทำเป็นลักษณะคล้ายหลอดบรรจุยาเสพติด

พ่อผู้เสียชีวิต เล่าว่าก่อนเกิดเหตุลูกชาย บอกว่าจะขี่รถจักรยานไปหานายหลง ที่กระท่อมกลางนา ซึ่งทั้ง 2 คน มักชวนกันตั้งวงดื่มเหล้ากันเป็นประจำ จากนั้นไม่นานผู้ใหญ่บ้านก็มาแจ้งว่าพบศพลูกชาย โดยผู้ที่มาแจ้งคือนายหลงซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ก่อนเขาจะหายตัวไป

ต่อมาตำรวจสอบปากคำพยานแวดล้อม มีผู้ให้การตรงกันว่าเห็นนายหลง เพื่อนสนิทของผู้เสียชีวิต ไปล้างมือเปื้อนเลือดที่ห้องน้ำหลัง อบต.บ้านขาว ก่อนที่เขาไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านว่าพบเพื่อนถูกทำร้ายเสียชีวิตกลางถนน แล้วหายตัวไปอย่างพิรุธ ขณะที่จากการสอบสวนตำรวจพบว่าทั้งคู่เคยมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และมักพากันลักเล็กขโมยน้อย จึงคาดว่าอาจมีปัญหากันเรื่องดังกล่าว แล้วลงมือก่อเหตุ

ไม่นานตำรวจชุดสืบสวนก็นำกำลังติดตามไปจนพบตัว นายสุริยง สิมสีพิมพ์ อายุ 37 ปี หรือนายหลง ขณะเขาหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในป่า ห่างจากที่เกิดเหตุเพียงแค่ประมาณ 100 เมตร

โดยเบื้องต้นผู้ต้องหายืนกรานปฏิเสธ แต่ต่อมาเขายอมจำนนต่อพยานหลักฐาน อ้างว่าเช้าวันเกิดเหตุ นายไพศาลซึ่งเป็นเพื่อนสนิท นำกระติกน้ำมาขายให้ราคา 100 บาท พอตกบ่ายก็มาทวงเงิน จนทำให้มีปากเสียงกันรุนแรง

เขาอ้างว่าเพื่อนใช้ท่อนไม้ฟาดตัวเองก่อน ด้วยความโมโหจึงวิ่งตามไปแย่งท่อนไม้มาจนได้ แล้วถีบเพื่อนจนล้ม ใช้ท่อนไม้ทุบศีรษะซ้ำจนเสียชีวิต จากนั้นเดินไปดื่มน้ำและล้างมือเปื้อนเลือดที่ อบต.บ้านขาว ก่อนทำทีไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านว่าพบศพนายไพศาลถูกฆ่า ส่วนเรื่องยาเสพติดปลอมในที่เกิดเหตุ เขาปฎิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง

แม่ของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้พิการตาบอด เล่าว่าผู้เสียชีวิตเป็นลูกคนสุดท้อง ไม่มีครอบครัวจึงยังคงอาศัยอยู่ด้วยกัน โดยเมื่อผู้ใหญ่บ้านมาแจ้งว่าพบศพลูกชาย ตัวเองก็ไม่สามารถออกมาดูได้เพราะมองไม่เห็น กระทั่งตำรวจตามจับคนร้ายได้ก็รู้สึกดีใจ ส่วนศพนายไพศาล ได้มอบศพให้มูลนิธิไปฝังที่สุสาน เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่มีเงินจัดงานศพ

ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา เนื่องจากการสอบสวนพยาน และหลักฐานที่พบคาดว่าสาเหตุการฆาตกรรม น่าจะเกิดจากปัญหาทะเลาะวิวาทกันเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างการตรวจร่างกายเพิ่มเติม โดยเบื้องต้น แจ้งข้อหานายสุริยง ในความผิดฐาน "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา"

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark