ข่าวในหมวด ประเด็นเด็ด 7 สี

เปิดคำรับสารภาพคนขับรถตุ๊กตุ๊ก ยิงเพื่อนร่วมอาชีพ 9 นัดซ้อนสาหัส ตร. แจ้ง 4 ข้อหา

ประเด็นเด็ด 7 สี - กรณีคนขับรถตุ๊กตุ๊กเปิดศึกกระหน่ำยิงคู่อริซึ่งเป็นเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกัน 9 นัดซ้อน บาดเจ็บสาหัส ผู้ก่อเหตุอ้างว่า สาเหตุที่ทำลงไปเพราะมีความขัดแย้งกันเรื่องการรับผู้โดยสาร โดยเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน ด้านพี่ชายผู้บาดเจ็บออกมาเผย สองฝ่ายเป็นญาติกัน พร้อมประกาศตัดขาดความเป็นพี่น้อง ติดตามจากรายงานของคุณอรวรรณ รัตนเดชา

ประมาณ 15:00 น วานนี้ นายเชาวลิต ภู่ทักษิณ อายุ 40 ปี อาชีพขับรถโดยสาร 4 ล้อเล็กหรือรถตุ๊กตุ๊ก อยู่บริเวณคิวรถรับจ้างข้างสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เขาถือปืนขนาด .38 อยู่ในมือและกำลังโต้เถียงกับนายเสาร์ พวงทอง อายุ 40 ปี เพื่อนร่วมอาชีพเดียวกัน ไม่นานเขาใช้ปืนยิงนายเสาร์จนล้มลง แล้วกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด พร้อมใช้เท้าเตะบริเวณลำตัว เมื่อกระสุนหมกแม็ก เขาเดินไปยังรถตุ๊กตุ๊กของตัวเองพร้อมบรรจุกระสุนเพิ่ม ก่อนย้อนกลับมายิงซ้ำอีกหลายนัด แม้จะมีคนเข้ามาพยายามห้ามปรามแต่ไม่เป็นผล กระสุนปืนเข้าบริเวณหน้าอก และกลางหลังของนายเสาร์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส

หลังเกิดเหตุ ตำรวจนอกเครื่องแบบที่อยู่บริเวณดังกล่าวรีบวิ่งเข้ามาชาร์จตัวนายเชาวลิตไว้ได้ทันควันก่อนหลบหนี พร้อมปืนยึดที่ใช้ก่อเหตุไว้ได้ โดยเหตุการณ์ทั้งหมดมีกล้องวงจรปิดบันทึกไว้

นายเชาวลิต ถูกคุมตัวไปสอบสวนเขาอ้างว่า สาเหตุที่ทำลงไปมาจากปมความขัดแย้งเรื่องการแย่งกันรับผู้โดยสาร โดยที่ผ่านมามีเรื่องบาดหมางกันมาตลอด สองวันก่อนเกิดเหตุเขาพกปืนติดตัวไว้ หลังปัญหาเดิมเกิดขึ้นซ้ำ จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

นายเกษม พวงทอง อายุ 54 ปี พี่ชายของนายเสาร์ ออกมาเปิดเผยว่า นอกจากนายเชาวลิตและนายเสาร์จะเป็นเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันแล้ว ทั้งคู่ยังเป็นญาติพี่น้องกัน แม้จะมีเรื่องขัดแย้งกันมาโดยตลอด แต่ไม่คาดคิดว่าถึงขั้นจะเอาชีวิต ซึ่งการกระทำครั้งนี้ถือว่าอุกอาจ สมาชิกในครอบครัวรับไม่ได้ จึงขอประกาศตัดขาดความเป็นญาติกับนายเชาวลิต

ล่าสุด ตำรวจแจ้งดำเนินคดีกับนายเชาวลิตใน 4 ข้อหาหนัก คือ พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน

จนถึงขณะนี้ อาการของนายเสาร์ยังไม่พ้นขีดอันตราย โดยยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark