เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เอาผิดรุ่นพี่ ป.5 รุมทำอนาจาร เด็กหญิงอายุ 5 ขวบ

ประเด็นเด็ด 7 สี - ตำรวจเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด รอบโรงเรียน จังหวัดกาฬสินธุ์ หาหลักฐานเอาผิด รุ่นพี่ ป.5 รุมทำอนาจารรุ่นน้องอนุบาล 2 ขณะที่แม่เด็กหญิงเข้าขอความเป็นธรรม มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ติดตามจากรายงานคุณไพจิตร ภานนท์

นี่เป็นข้อสังเกตที่ทำให้ผู้เป็นแม่ของเด็กหญิง อายุ 5 ขวบ เริ่มสงสัยว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับลูกสาวของตัวเอง เพราะลูกสาวไม่ยอมให้อาบน้ำให้เหมือนปกติ เธอพยายามสอบถาม และในที่สุดก็ได้รับคำตอบที่น่าตกใจ ลูกสาวเธอถูกรุ่นพี่อายุ 11 ปี ซึ่งอยู่ชั้น ป.5 จำนวน 3 คน รุมทำอนาจาร ที่ห้องน้ำหลังสนามเด็กเล่นของโรงเรียน เธอจึงรีบพาลูกสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ระบุว่าอวัยวะเพศฉีกขาด จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.คำม่วง ทันที

เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นระหว่างปลายเดือนสิงหาคม กับต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังแม่ของเด็กหญิงแจ้งความจึงพยายามสอบถามไปยังผู้บริหารโรงเรียนและครูประจำชั้น แต่กลับไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวเธอ มีเพียงภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าสนามเด็กเล่น ที่พบว่าช่วงเวลาเกิดเหตุลูกสาวเดินไปที่ห้องน้ำใกล้สนามเด็กเล่น และหายไปประมาณ 9 นาที ก่อนจะเดินกลับออกมาในสภาพกระโปรงและเสื้อนักเรียนหลุดลุ่ย

ด้วยความกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม รวมถึงไม่สามารถเอาผิดผู้ก่อเหตุได้ แม่ของเด็กหญิงจึงเดินทางมายังมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อร้องขอความเป็นธรรม ตำรวจพาเด็กหญิงอายุ 5 ขวบ ไปชี้จุดบริเวณห้องน้ำที่เกิดเหตุ ซึ่งเด็กหญิงสามารถระบุตัวรุ่นพี่ที่ก่อเหตุได้ชัดเจน โดยมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังไปช่วงก่อนเกิดเหตุพบว่ามีเด็กชายกลุ่มหนึ่งเดินไปทางห้องน้ำที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้ต้องรอผลการสอบสวนร่วมกับสหวิชาชีพ เนื่องจากทั้งผู้เสียหาย และผู้ถูกกล่าวหายังเป็นเยาวชน จำเป็นต้องทำอย่างละเอียดและรอบคอบมากที่สุด

คดีนี้ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่าง ๆ รวมถึงสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องและผลตรวจของแพทย์ ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และทำคดีอย่างรัดกุมเพื่อไม่ให้กระทบต่อเด็กและผู้ปกครอง

ปัจจุบันเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่เป็นรุ่นพี่ที่กระทำรุ่นน้อง และนับวันผู้ก่อเหตุจะอายุน้อยลง สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาหลายด้าน ซึ่งหลังจากนี้มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางมาตรการแก้ไขปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก