ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

สาวนักวิ่งเผยนาทีถูกคนร้ายล็อกคอ ฉุดเข้าข้างทางถนนเลียบคลองแสนแสบ

เช้านี้ที่หมอชิต - สาวนักวิ่งเผยนาทีฮึดสู้คนร้าย หลังวิ่งออกกำลังกาย แล้วถูกคนร้ายเดินตามมา แล้วพยายามฉุดเข้าข้างทาง ขณะที่ตำรวจเร่งหาเบาะแสติดตามตัวคนร้าย

จากกรณีหญิงสาวคนหนึ่งโพสต์ภาพพร้อมข้อความเตือนภัย โดยเฉพาะผู้หญิง อย่าไปวิ่งออกกำลังกายคนเดียว ที่บริเวณถนนเลียบคลองแสนแสบ หลังเธอถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ

หญิงสาวเล่านาทีเกิดเหตุว่า หลังเธอกลับจากวิ่งออกกำลังกายที่สนามกีฬาย่านหัวหมาก ช่วงประมาณ 20.30 น. และได้เดินกลับที่พัก โดยใช้เส้นทางถนนเลียบคลองแสนแสบ ระหว่างนั้นรู้สึกคล้ายมีคนเดินตามมา จึงพยายามเหลือบสายตาดู กระทั่งเห็นเงาคนใกล้เข้ามา เธอจึงตัดสินใจหันกลับไปมอง แต่จังหวะนั้นคนร้ายก็เข้ามาล็อกคอจากด้านหลังทันที แล้วพยายามฉุดเธอเข้าข้างทาง

เธอทิ้งข้าวของที่ติดตัวแล้วต่อสู้กับคนร้าย เพื่อเอาตัวรอด จนใกล้หมดแรงแล้วล้มลง จังหวะนั้นข้อศอกเธอไปกระแทกโดนคนร้าย และมีเสียงคนวิ่งใกล้เข้ามา ทำให้คนร้ายหยุดชะงัก ก่อนตัดสินใจวิ่งหลบหนีไป ส่วนเธอได้รับบาดเจ็บที่ข้อศอกและเข่าจากการล้ม เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา

ผู้เสียหายบอกอีกว่า ปกติเธอจะใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ แต่ไม่ได้มาเพียงลำพัง ส่วนคนร้ายเป็นชายสวมชุดกีฬา อายุประมาณ 30 ปี โดยไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แต่คาดว่าน่าจะเป็นคนที่สวนทางกัน ก่อนจะเดินตามมาแล้วก่อเหตุ

ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นป่าหญ้ารกร้าง ริมถนนเลียบคลองแสนแสบ สอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง บอกว่า คนที่ใช้ถนนเส้นนี้ส่วนใหญ่เป็นคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ และมักใช้เส้นทางนี้ไปตามสถานที่ติดริมคลอง และขึ้นท่าเรือต่าง ๆ แทนที่จะออกไปถนนใหญ่ เพราะเส้นทางใกล้กว่า

ส่วนคนที่ออกกำลังกายมักจะมากันในช่วงเช้าและช่วงเย็น จนถึงช่วงประมาณ 20.00 น. โดยมักมากันเป็นคู่หรือเป็นกลุ่ม หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยมีคนใช้เส้นทางนี้แล้ว เพราะทางจะมืด ถนนบางช่วงไม่มีไฟส่องสว่างและเปลี่ยว ทำให้ค่อนข้างอันตราย

ชาวบ้านในละแวกดังกล่าว เปิดเผยด้วยว่า บริเวณนี้เคยมีเหตุชิงทรัพย์ แต่เกิดขึ้นนาน ๆ ครั้ง กับคนที่เดินมาเพียงคนเดียว ทำให้คนส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยเส้นทางดังกล่าวตั้งแต่ช่วง 20.00-21.00 น.เป็นต้นไป

หลังเกิดเหตุ ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าบริเวณดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิด ซึ่งจากการสอบปากคำผู้เสียหาย พบว่าหลังก่อเหตุคนร้ายได้วิ่งหลบหนีไป มุ่งหน้าไปทางซอยมหาดไทย หรือซอยรามคำแห่ง 65 ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างเร่งหาเบาะแสเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาสอบสวนดำเนินคดี

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark