ทลายเครือข่าย จูน บ่อดิน นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ ยึดทรัพย์เกือบ 100 ล้านบาท

เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจ ปส. ทลายเครือข่าย "จูน บ่อดิน" นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง พร้อมยึดทรัพย์เกือบ 100 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติพบเครือข่ายนี้ ค้ายามานานกว่า 10 ปี มีเงินหมุนเวียนนับพันล้าน

ชุดปฏิบัติการพิเศษสยบไพรี กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่ง จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญในการทลายเครือข่ายพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ฉายา "จูน บ่อดิน" โดยสามารถจับ นายอัจฉริยะ ชื่นชม ผู้ต้องหารายสำคัญของเครือข่ายนี้

เขายอมรับว่า รู้จักกับ นายจิตพันธ์ หรือ "จูน บ่อดิน" มานานหลายปี เนื่องจากเป็นลูกค้าที่ร้านสัก โดย นายจิตพันธ์ มักจะมาสักกับเขาบ่อยครั้ง และยอมรับว่าเคยทำธุรกรรมทางการเงินให้กับ "จูน บ่อดิน" แต่อ้างไม่รู้ว่าเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

เวลาเดียวกัน ตำรวจอีกชุดเข้าตรวจค้นบ้านพัก ในอำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี เพื่อจับผู้ต้องหารายสำคัญ อีก 1 คน ที่เป็นเสมือนมือขวาของ "จูน บ่อดิน" คือ นายอานนท์ กิรัมย์ หรือ ปลานิล แต่จากการตรวจค้นกลับไม่พบใครอยู่ในบ้านหลังนี้ ตำรวจเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะไหวตัวทันและหลบหนีไปไม่นาน จึงใช้โดรนบินสำรวจบริเวณโดยรอบ

กระทั่งพบผู้ต้องหาหลบซ่อนตัวอยู่ในไร่ข้าวโพดหลังบ้านดังกล่าว ก่อนจะถูกตำรวจจับได้ในสภาพทุลักทุเล ซึ่งทันทีที่ตำรวจแจ้งหมาย เขาก็ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดของ "จูน บ่อดิน" ที่วิ่งหนีตำรวจเพราะความกลัวและตกใจ

นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องหาเครือข่าย "จูน บ่อดิน" ที่เป็นเป้าหมายสำคัญอีก 1 คน คือ พระพรเทพ หรือ นายพรเทพ ภู่เจริญวณิชย์ พระลูกวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสิงห์บุรี ตำรวจจึงนำหมายจับเข้าแสดงขณะกำลังบิณฑบาต ก่อนนำไปสึกจากความเป็นพระ นายพรเทพ ยอมรับว่า รู้จักกับ "จูน บ่อดิน" เพราะเป็นเพื่อนกัน แต่ปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นกับการค้ายาเสพติด

ผู้ต้องหาที่จับได้ครั้งนี้ ล้วนเป็นเครือข่ายสำคัญของ "จูน บ่อดิน" พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่พื้นที่ภาคกลาง ทำหน้าที่ติดต่อกับกลุ่มผู้ค้ายา และทำธุรกรรมทางการเงิน โดยพบว่า "จูน บ่อดิน" เริ่มผันตัวเป็นผู้ค้ายาเสพติดตั้งแต่ปี 2553 และถูกออกหมายจับคดียาเสพติด ปี 2561 ก่อนจะถูกตำรวจจับตัวได้เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา

ที่ผ่านมาตำรวจสามารถจับเครือข่ายรายย่อย และกลุ่มผู้ขนยาเสพติดของ "จูน บ่อดิน" ได้บ่อยครั้ง แต่ละครั้งจะเป็นยาเสพติดล็อตใหญ่ และแบ่งกลุ่มทำงานชัดเจน จนมีเครือข่ายค้ายาในหลายจังหวัด ถึงแม้ "จูน บ่อดิน" จะถูกจับ แต่ยังมีความเคลื่อนไหวของเครือข่ายนี้อยู่ จึงนำไปสู่การบุกจับครั้งนี้ โดยกระจายกำลังปิดล้อมตรวจค้นทั้งหมด 34 จุด ทั่วประเทศไทย สามารถยึดทรัพย์ได้เกือบ 100 ล้านบาท