รวบทันควัน คนร้ายแฝงตัวเป็นผู้โดยสาร ชิงรถแท็กซี่หนีข้ามจังหวัด
เช้านี้ที่หมอชิต - ความคืบหน้ากรณีผู้โดยสารรถแท็กซี่เชิดรถหนีไป ขณะคนขับเข้าห้องน้ำ ตำรวจตามแกะรอยข้ามจังหวัด รวบตัวคนร้ายได้แล้วในพื้นที่จังหวัดชลบุรี อ้างอยากได้รถไปขับหารายได้
จากกรณี คนร้ายแฝงตัวเป็นผู้โดยสาร หลอกว่าจ้างแท็กซี่ จากย่านหนองจอก กรุงเทพมหานคร ให้ไปส่งที่ตลาดโรงเกลือ จังหวัดสระแก้ว โดยมีพฤติกรรมขอลองขับรถ แต่คนขับแท็กซี่ปฏิเสธ ก่อนออกอุบายว่า ปวดท้อง ขอแวะเข้าห้องน้ำ จนคนขับแท็กซี่ทำตาม เพราะปวดปัสสาวะพอดี คนร้ายจึงขึ้นมาขับรถหลบหนีไป
เหตุเกิดภายในปั๊มน้ำมันริมถนน 304 ในพื้นที่อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีภาพจากกล้องหน้ารถคันหนึ่ง ที่กำลังขับเข้ามาจอด จับภาพรถแท็กซี่สีชมพู-ขาว ขับออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ชายคนขับรถแท็กซี่ ออกมาจากห้องน้ำพอดี โดยทำได้แค่มองไปที่รถของตัวเอง ซึ่งถูกขับออกไปต่อหน้าต่อตา
หลังเกิดเหตุ ตำรวจแกะรอยระบบจีพีเอส (GPS) ที่ติดอยู่ภายในรถแท็กซี่ จนพบว่ารถไปอยู่ในพื้นที่อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี จึงประสานตำรวจท้องที่เข้าตรวจสอบ กระทั่งพบรถแท็กซี่คันดังกล่าว ถูกจอดทิ้งไว้บริเวณพงหญ้าข้างโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลธาตุทอง
ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นชายอายุ 41 ปี ได้หลบหนีไปขึ้นรถบัสโดยสารสายบ่อทอง-ชลบุรี ต่อมาถูกตำรวจตามไปจับตัวไว้ได้ ที่บริเวณที่พักสายตรวจ สี่แยกหนองชาก ในอำเภอบ้านบึง และคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ชี้จุดหลังเขาเดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วขับรถหลบหนีไป
หลังได้รถคืนคนขับรถแท็กซี่ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ได้พูดคุยกับแม่ของผู้ก่อเหตุ ทราบว่าเขาขับรถไปที่บ้านแม่ โดยต้องการนำรถแท็กซี่ไปขับหาเงิน
ตำรวจ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตกงานตั้งแต่ช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 จึงตัดสินใจขโมยรถแท็กซี่ โดยออกอุบายให้คนขับไปส่งที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อหาโอกาสขโมยรถ เมื่อได้รถมาก็ขับไปซุกไว้ที่บ้านแม่ เพื่อรอให้เรื่องเงียบ แล้วจะใช้รถคันดังกล่าวไปขับรับส่งผู้โดยสารหารายได้ โดยไม่รู้ว่ารถติดจีพีเอส จากนั้นได้เดินมาขึ้นรถที่สถานีขนส่ง เพื่อกลับไปหาภรรยาที่บ้านพักย่านหนองจอก แต่ถูกจับได้เสียก่อน
เบื้องต้น พบประวัติผู้ก่อเหตุเคยป่วยทางจิต และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง ด้านตำรวจแจ้งข้อหาลักทรัพย์ผู้อื่นเพื่อครอบครองทรัพย์นั้นไว้ เพื่อนำไปขายหรือให้กับบุคคลอื่น ก่อนนำตัวไปดำเนินคดี
