วิธีใช้ คนละครึ่ง สแกนจ่ายได้เลยง่ายๆ ยอดใช้จ่ายโครงการ ทะลุ 704 ล้านบาท

เช้านี้ที่หมอชิต - หลังจากที่เปิดให้ผู้ลงทะเบียนรับสิทธิโครงการคนละครึ่ง เริ่มใช้จ่ายเงินได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ล่าสุดกระทรวงการคลังเผย มียอดใช้จ่ายแล้วกว่า 704 ล้านบาท พร้อมขู่ผู้ที่ทำผิดเงื่อนไขจะถูกระงับการจ่ายเงินทันที ทั้งร้านค้าและประชาชน

นายพรชัย ฐีระเวช ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ยอดผู้ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม จนถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา (26 ต.ค.) มียอดใช้จ่ายรวม 704.5 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายเอง 362.5 ล้านบาท และรัฐช่วยจ่ายอีก 342 ล้านบาท คิดเป็นยอดใช้จ่ายเฉลี่ยครั้งละ 232 บาท จังหวัดที่ใช้จ่ายมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ กรุงเทพมหานคร สงขลา และนครศรีธรรมราช

ส่วนจำนวนผู้ขอรับสิทธิตามโครงการนี้ที่กำหนดไว้ 10 ล้านคน ตรวจสอบเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (27 ต.ค.) พบว่ามีผู้ขอรับสิทธิครบตามจำนวนแล้ว

รองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายของประชาชนครึ่งหนึ่งที่ใช้จ่ายกับร้านค้า จะได้รับยอดรวมโอนเข้าบัญชีที่ลงทะเบียนทุกสิ้นวัน ในช่วง 02.00-06.00 น. ตามระบบชำระเงินของธนาคาร ส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่ายอีกครึ่งหนึ่ง ร้านค้าจะได้รับในวันทำการถัดไป ช่วง 17.30-19.00 น. โดยยอดการใช้จ่ายในช่วงวันหยุด ภาครัฐจะโอนให้ทันทีในวันทำการถัดไป

ส่วนช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 23-25 ตุลาคม ในส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่าย จำนวน 212 ล้านบาท ได้โอนให้ร้านค้า จำนวน 96,359 ร้านค้า เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ (26 ต.ค.) และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับปรุงระบบการจ่ายเงินให้ร้านค้าให้มีความเหมาะสมมากขึ้น หากร้านค้าใดยังไม่ได้รับเงินสามารถติดต่อธนาคารกรุงไทย เพื่อตรวจสอบสถานะบัญชีว่าเป็นบัญชีที่ไม่มีการเคลื่อนไหวนานเกิน 1 ปีหรือไม่ หรือมีปัญหาอื่นเพื่อแก้ไขได้ทัน

ขณะที่กระแสข่าวว่ามีมิจฉาชีพมีพฤติกรรมโฆษณาชวนเชื่อให้นำสิทธิที่ลงทะเบียนแล้วมาแลกเป็นเงินสดได้ รวมทั้งอ้างว่าภาครัฐไม่จ่ายเงินจริง ทางกระทรวงการคลัง ยืนยันว่าภาครัฐมีระบบติดตามตรวจสอบพฤติกรรม หรือธุรกรรมที่ผิดปกติ รวมทั้งตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวในเรื่องดังกล่าว หากพบความผิดปกติ หรือมีการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ ก็จะระงับการจ่ายเงินทั้งฝั่งร้านค้าและประชาชนทันที