สามีรับสารภาพแล้ว บีบคอภรรยาดับคาบ้าน เผาศพแล้วนำไปทิ้งกลางไร่อ้อย อำพรางคดี

เจาะประเด็นข่าวค่ำ - ความคืบหน้ากรณีพบโครงกระดูกมนุษย์ในไร่อ้อย จังหวัดนครนายก โดยน้องสาวของหญิงอายุ 43 ปี สงสัยว่าอาจเป็นพี่สาวของตัวเองที่หายตัวไปนานกว่า 6 เดือน ล่าสุด สามีของหญิงที่สูญหาย รับสารภาพแล้วว่าเป็นคนลงมือฆ่าภรรยา ก่อนเผาศพแล้วขับรถนำไปทิ้งข้ามจังหวัด

จากกรณีพบโครงกระดูกมนุษย์ในไร่อ้อย พื้นที่บ้านหนองหัวเสือ ตำบลเกาะหวาย อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ซึ่งเมื่อวานนี้ (14 ม.ค.) พี่ชายและน้องสาวของผู้สูญหายรายหนึ่งได้เข้าพบตำรวจ หลังสงสัยว่าโครงกระดูกดังกล่าวอาจเป็น นางสาวพรทิพย์ พุทธรักษา อายุ 43 ปี พี่น้องของตัวเอง ที่หายตัวไปตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม ปีที่ผ่านมา

โดยจากการตรวจสอบบ้านพักของนางสาวพรทิพย์ ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ก็พบร่องรอยการเผาไหม้ภายในห้องน้ำ และพบหลักฐานทั้ง เศษผ้า ถุงเปลือกอาหารสัตว์และเศษปูน สอดคล้องกันกับหลักฐานที่พบในจุดที่พบโครงกระดูก

ขณะที่จากการตรวจสอบ ตำรวจพบว่า นางสาวพรทิพย์ อาศัยอยู่กับสามีที่บ้านหลังดังกล่าวมานานกว่า 5 ปี แต่ระยะหลังเกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนเธอหนีไปอยู่ที่บ้านเพื่อนในจังหวัดนนทบุรี จากนั้นวันที่ 1 กรกฎาคมปีที่ผ่านมา สามีของนางสาวพรทิพย์โทรศัพท์ไปหา นัดเจอภรรยาที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรังสิต แล้วรับกลับมาที่บ้าน กระทั่ง 4 วันต่อมา เพื่อนของนางสาวพรทิพย์โทรศัพท์ไปสอบถามญาติ ทำให้รู้ว่าเธอหายตัวไป ก่อนที่ญาติจะไปแจ้งความ

ตำรวจได้เชิญตัว นายรังสรรค์ โสมเขียว อายุ 54 ปี ผู้เป็นสามีมาสอบปากคำ กระทั่งล่าสุด เขายอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าภรรยา ก่อนถูกคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

จากการสอบสวน นายรังสรรค์ บอกว่า ก่อนเกิดเหตุในวันที่ 1 กรกฎาคมปีที่แล้ว ไปรับภรรยากลับมาที่บ้านพักในจังหวัดปราจีนบุรี จากนั้นได้นอนคุยเล่นกันในห้องนอน ระหว่างนั้นเขาหยิบโทรศัพท์ภรรยามาดู จนพบรูปที่ทำให้เกิดความหึงหวงและโมโห จึงได้บีบคออีกฝ่าย เมื่อได้สติก็พบว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว

จากนั้นเขานำศพภรรยาไปเผาที่ห้องน้ำข้างบ้านนานกว่า 2 ชั่วโมง แต่ศพไหม้แค่ช่วงบน จึงได้นำผ้าสีดำมาห่อ แล้วยกขึ้นท้ายรถเก๋ง นำศพไปทิ้งไว้ที่ไร่อ้อย ในพื้นที่จังหวัดนครนายก ก่อนกลับมาเก็บเสื้อผ้าที่บ้านภรรยา แล้วกลับมาอยู่ที่บ้านของตัวเอง

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครนายก เปิดเผยว่า หลังก่อเหตุ นายรังสรรค์ ก็กลับไปใช้ชีวิตตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนรถเก๋งที่ใช้ขนศพไปทิ้งก็ถูกจอดทิ้งไว้ โดยไม่ได้นำมาใช้อีกเลย โดยตำรวจได้ไปตรวจสอบรถคันดังกล่าวแล้ว ก็พบทั้งเศษก้อนกรวดและถ่าน ซึ่งตรงกับหลักฐานที่พบจากทั้ง 2 จุด

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหานายรังสรรค์ ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และซ่อนเร้นอำพรางศพ

ด้านน้องสาวของนางสาวพรทิพย์ บอกว่า รู้สึกดีใจที่นายรังสรรค์ ยอมรับสารภาพ เพราะคาดไว้แล้วว่าน่าจะเป็นฝีมือของอีกฝ่าย ที่ผ่านมาครอบครัวเคยไปสอบถาม แต่นายรังสรรค์ ปฎิเสธมาโดยตลอด จากนี้ก็จะต้องรอผลดีเอ็นเอยืนยันให้ชัดเจนอีกครั้ง ว่าเป็นกระดูกของพี่สาว เพื่อจะได้นำกระดูกกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป