คลิปที่เกี่ยวข้อง

“เกาะช้าง” 1 ใน 3 ตำนานเกาะแห่งภาคตะวันออก ที่ต้องมาเยือนกับแก๊งสักครั้งในชีวิต!!!

“เกาะช้าง” 1 ใน 3 ตำนานเกาะแห่งภาคตะวันออก
ที่ชาวแก๊งต้องมาสักครั้ง...รับรองตัวไม่เหนียว !!!




'น้ำตกธารมะยม ชมหาดทรายขาว
ทิวเขาเขียวขจี ชมชี้ปะการัง
นั่งเรือชมเกาะ ที่เหมาะตกปลา'



 
        ถ้าพูดถึง 'เกาะในภาคตะวันออก' ทุกคนก็จะนึกถึง 'เกาะเสม็ด' กับ 'เกาะล้าน' เป็นอันดับแรก แต่ก็ยังมีอีกเกาะหนึ่ง ที่อยู่เลยออกมาอีกนิด นั่นก็คือ 'เกาะช้าง' จุดหมายปลายทางที่มีแหล่งท่องเที่ยว และอาหารการกินอย่างมากมาย วันนี้เราจะพาไปเที่ยว จังหวัดตราด และเกาะช้างกัน กับทริป 3 วัน 2 คืน ลองไปดูกันว่าจะมีจุดไหนให้เช็คอิน และอิ่มเอมกับความงดงามของธรรมชาติบ้าง ตาม 'Bugaboo.TV ปาเตี้ยว' ไปเที่ยวกันเลยจ้าทุกคน!!! 


 
        จุดเช็คอินที่ 1 “ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง” ตั้งอยู่ในตัวเมืองจังหวัดตราด  สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากสินมหาราช ในแบบความเชื่อของจีน เพื่อปกป้องคุ้มครองชาวเมืองตราดให้ปลอดภัย และอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข เป็นการรวมกันของสามศาสนา ได้แก่ พุทธมหายาน พราหมน์ และฮินดู  
 
 
        นอกจากนี้ที่ “ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง” ยังมี 'ศิวลึงค์ศิลา' สร้างขึ้นตามคติความเชื่อของชาวฮินดู โดยเชื่อกันว่า “เสาศิวลึกค์ศิลา” จะประทานพรให้กับผู้มาขอพรได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ความรัก เรื่องงาน การเงิน  แต่! ผู้ที่มาขอพรต้องระบุ ชื่อ-นามสกุล ของตนให้ชัดเจน เพื่อให้คำขอพรดังกล่าวสมหวังในที่สุด (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล) 


 
        เมื่อขอพรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มาแวะเติมพลังกันที่ร้าน 'ก๋วยเตี๋ยวริมเขื่อน' ที่มีเมนูเด็ดอย่าง ข้าวมันทะเล และ ก๋วยเตี๋ยวทะเล ที่เสิร์ฟพร้อม กับ กุ้ง ปู หมึก และทีเด็ดคือ กั้ง เนื้อแน่น ๆ โดยรสชาติโดยรวม อร่อย สด เหมาะกับการมาเติมพลังก่อนไปเที่ยวในจุดต่อไป



 
       จุดเช็คอินที่ 2 “พิพิธภัณฑสถานเมืองตราด” การมาเยือนที่นี่ก็เหมือนกับเรามาทำความรู้จักและสร้างความคุ้นเคย ก่อนการไปท่องเที่ยวที่ต่าง ๆ ของจังหวัดตราด ภายในก็จัดแสดงเนื้อหาเรื่องราวของจังหวัดตราดไว้อย่างครบถ้วน มาที่เดียวรู้เรื่องจังหวัดตราดแน่นอน!! 



 
       จุดเช็คอินที่ 3 “ซอยไร่รั้ง” ถนนอาหารดี วิถีเมืองตราด ซอยที่รวบรวมอาหารต่าง ๆ ไว้มากมาย ตอนเช้าซอยนี้จะเต็มไปด้วย ของสดจากทะเล ผักผลไม้ต่าง ๆ ส่วนช่วงเย็น ๆ ก็จะมีกับข้าวต่าง ๆ มากมาย แต่ที่อยากให้ทุกคนได้ลองชิม และทำไมต้องมาเช็คอินที่นี้ นั่นก็คือ 'ขนมรังผึ้ง' ขนมธรรมดาที่หากินโดยทั่วไปง่าย ๆ แต่ที่นี่เป็นขนมรังผึ้งสูตรโบราณที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ใช้ข้าวเหนียวดำ และมะพร้าวอ่อนเป็นวัตถุดิบสำคัญ รสชาติหอมหวาน อร่อยต้องแชร์กันเลยทีเดียว! ร้านอยู่ด้านหน้าติดกับร้านทอง ที่สำคัญราคาไม่แพง


 
      อีกอย่างที่มาซอยนี้แล้วต้องแวะเข้าไปชิมให้ได้ ก็คือ “ทอดมันหมูย่าง” ใช่แล้ว ทอดมันที่เราคุ้นเคยกัน แต่ที่ซอยไร่รั้งนั้น พี่ ๆ เค้าเอามาย่าง ทำให้หอมกลิ่นเครื่องแกงทอดมัน ที่สำคัญไม่มีน้ำมัน ทำให้รสชาติกลมกล่อมสุด ๆ ราคาไม้ละแค่ 10 บาทเท่านั้น รับรองว่าถูกปากแน่นอน ร้านนี้ไม่มีชื่อร้านแต่จะอยู่ตรงกลางซอย แถวกลาง หาไม่ยากเลย จากร้านขนมรังผึ้งมาไม่เกิน 100 เมตร บอกเลยว่าเด็ดสุด ๆ


       จุดเช็คอินที่ 4 “แหลมงอบ” สุดแผ่นดินภาคตะวันออก ที่เราสามารถชมพระอาทิตย์ตกดิน และเห็นภาพกว้างของเกาะช้าง พร้อมถ่ายรูปชิค ๆ ที่ประภาคาร เพื่อบอกเล่าเรื่องราวความประทับใจเป็นการอำลาช่วงเวลาที่แสนพิเศษนี้ รับรองว่าได้ 'Like' รัว ๆ  แน่นอน!!!

 
       จุดเช็คอินจุดที่ 5 "เกาะช้าง" เกาะแห่งตำนาน ที่ช่วงชีวิตหนึ่งต้องมากันเป็นแก๊งค์! ไม่ว่าจะมากับผองเพื่อนสมัยเรียน หรือ Outing ของวัยทำงาน 'เกาะช้าง' เป็นเกาะที่สะดวกสบาย สามารถนำยานพาหนะ ขึ้นเรือเฟอร์รี่ไปด้วยได้ ส่วนท่าเรือที่นิยมใช้กัน นั่นก็คือ 'ท่าเรืออ่าวธรรมชาติ' ใช้เวลาเดินทางแค่เพียงประมาณ 20-30 นาที ซึ่งจะมีเรือข้ามฟากออกทุกชั่วโมง สถานที่ที่น่าสนใจที่จะขอนำเสนอในเกาะช้างที่ทุกคนรู้จักกันดี จะมีอะไรหลบซ่อนให้เราค้นหาและตามไปเช็คอินบ้างนั้น ต้องตามกันต่อกับจุดเช็คอินที่ทุกคนต้องร้อง ว๊าววววว~
 

       จุดเช็คอินจุดที่ 5.1 "น้ำตกธารมะยม" ออกจากท่าเรืออ่าวธรรมชาติแล้วเลี้ยวซ้ายได้เลย จุดหมายปลายทางคือน้ำตกที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ รอรับการผจญภัยกับการมาสัมผัสธรรมชาติของน้ำตกที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งต้นน้ำในเกาะช้าง



        พร้อมกับมาชมลานหินที่สลักพระปรมาภิไธย ของรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 รับรองว่าได้เล่นน้ำใส ๆ เย็น ๆ อย่างแน่นอน และที่สำคัญน้ำตกแห่งนี้ยังมีเรื่องเล่าว่า ถ้าคู่รักคู่ไหนมาเที่ยว แล้วขอพรที่ลานหินที่สลักพระปรมาภิไธยของในหลวงรัชกาลที่ 7 และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี จะทำให้สมหวังในความรักอีกด้วย


 
       จุดเช็คอินจุดที่ 5.2  "ชุมชนสลักคอก" ชุมชนเล็กที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ โดยมีกิจกรรมรองรับนักท่อเที่ยวที่อยากมาสัมผัสกับธรรมชาติริมคลองสลักคอก ด้วยวิถีชุมชนกับการล่องเรือมาด เรือโบราณที่สร้างมาจากไม้ตะเคียน อายุมากกว่า 100 ปี ที่จะพาไปชมธรรมชาติของป่าโกงกาง ถ้าใครมาช่วงเช้า ๆ หรือช่วงเย็น รับรองเพลิดเพลินกับความงามของธรรมชาติแน่นอน ค่าใช้จ่ายก็ไม่แพง เพียงคนละ 200 บาท นั่งได้ 4 คน ต่อ 1 ลำ



 
       จุดเช็คอินจุดที่ 5.3 ไปเที่ยวกันมาก็ 2 จุดสำคัญ ๆ ของเกาะช้างกันแล้ว ก็ต้องแวะเติมพลังกันสักหน่อย กับร้านอาหารที่มีชื่อว่า "สลักเพชรซีฟู้ด รีสอร์ทแอนด์สปา" ต้องบอก่อนว่า ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย แต่พอได้ลองทานแล้วต้องบอกเลยว่า 'อร่อยต้องแชร์' โดยเฉพาะ หมึกแดดเดียว หอยเซลย่างเนย กุ้งซอสมะขาม ปลาเก๋าทอดน้ำปลา และไอ้คลั่งทะเลเดือด รสชาติทางร้านปรุงมาได้อย่างลงตัว พร้อมกับวิวที่เห็นทะล และมีทางเดินให้ถ่ายรูปริมทะเลสวย ๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าอิ่มทั้งท้องและอิ่มทั้งบรรยากาศกับร้านนี้เลย ส่วนราคาก็ต้องบอกเลยว่ารสชาติสมราคา


       จุดเช็คอินจุดที่ 5.4 ที่นี่คือจุดหมายปลายทางที่เราอยากจะบอกกับทุกคนว่า “เกาะช้าง” ยังคงสวยงามเหมือนเดิม หลังจากที่ทุกคนทราบกันดีว่าเกาะแห่งนี้ โดยเฉพาะ อ่าวพร้าว และ ไก่แบ้ โดนน้ำท่วมใหญ่ในรอบหลาย 10 ปี เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทำให้มีซากความเสียหายมากมาย โดยเฉพาะเศษซากไม้ที่ลอยมากับน้ำ รวมทั้งขยะกว่า 15 ตันเกลื่อนเต็มหาดไปหมด ความสูงของเศษซากดังกล่าวหนากว่า 60 เซนติเมตร เต็มพื้นที่หาดอ่าวพร้าว และ ไก่แบ้



 
        แต่เพราะด้วยความร่วมมือของทุก ๆ ภาคส่วนได้แก่ ภาคประชาขน (จิตอาสา) ภาคเอกชน ภาครัฐ และ ชุมชน ที่อยู่ในเกาะช้าง ช่วยกันดำเนินการเก็บกวาดขยะจนเสร็จสิ้น ใช้เวลาเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น ทำให้ 'เกาะช้าง' กลับมาพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างชาติอีกครั้ง จากเหตุการดังกล่าว เราได้มีโอกาสพูดคุยกับตัวแทนภาคประชาชน (จิตอาสา) ที่เป็นผู้ริเริ่มการช่วยเหลือเกาะช้างให้กลับมาสวยงามอีกครั้ง โดยเป็นเหมือนศูนย์กลางขับเคลื่อนการแก้ปัญหาขยะต่าง ๆ ให้หมดไป นั่นก็คือ คุณธีระศักดิ์ สรวมชีพมาเสือ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ พี่โธมัส แห่ง 'Trash Hero' จึงทราบว่าที่เกาะช้าง ร้านสะดวกซื้อทุกแห่งไม่มีการให้ถุงพลาสติกแล้ว ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา เลยอยากจะบอกกับนักท่องเที่ยวทุกคนว่า มาเกาะช้างให้เตรียมถุงผ้ามาใส่ของกันด้วยนะทุกคน!!!


 
       เป็นการจากลาเกาะช้าง เกาะ 1 ใน 3 ตำนานเกาะภาคตะวันออก ที่ตอนนี้หันมาใส่ใจปัญหาเรื่องขยะและสิ่งแวดล้อมกันอย่างจริงจัง พวกเรานักท่องเที่ยวก็ควรตระหนักถึงความสำคัญของธรรมชาติ และร่วมมือร่วมใจรักษาสถานที่ท่องเที่ยวนี้ไว้เพื่อคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติไว้ตราบนานเท่านาน แต่จุดเช็คอินเรายังหมดเพียงเท่านี้! เพราะเรายังมีสถานที่ท่องเที่ยวแบบวิถีชุมชนของชาวตราดมาฝากกันอีกเพียบ ตามไปดูกันเลย!
 

 
       จุดเช็คอินจุดที่ 6  "อะเมซอนแห่งภาคตะวันออกบ้านท่าระแนะ" จังหวัดตราด ชุมชนนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวแบบวิถีชุมชน ให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส และทดลองใช้ชีวิตในรูปแบบ โฮมสเตย์ มีฐานกิจกรรมต่าง ๆ ให้ได้เรียนรู้ตลอดทั้งวัน



       แต่วันนี้อยากจะขอแนะนำสัก 2 ฐาน นั่นก็คือ นั่งเรือชมธรรมชาติ 3ป่า ได้แก่ ป่าโกงกาง ป่าจาก และ ป่าต้นตะบูน ที่นี่เราจะได้เห็นรากของต้นตะบูนสีขาว ให้ได้ทดลองเดินเล่น ทางผู้ใหญ่บ้านแนะนำว่า ให้มาช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงเดือนกันยายน น้ำจะไม่เยอะ และสามารถเห็นลานตะบูนเป็นสีขาวแปลกตาไปอีกแบบ แถมยังมีกิจกรรมโยนโบลิ่งแบบธรรมชาติจากลูกตะบูน ให้สนุกกับเดอะแก๊งอีกด้วย



 
        สุดท้ายหลังจากที่เรานั่งเรือชมความงามของป่าอะเมซอนแห่งภาคตะวันออก เราก็ส่งท้ายกันด้วยการทำผ้ามัดย้อมด้วยต้นตะบูน สีที่ได้ก็จะออกเป็นสีส้มอ่อน ๆ เป็นการส่งท้ายชุมชนบ้านท่าระแนะ ส่วนถ้าใครสนใจก็สามารถโทรมาสอบถามเรื่องกิจกรรมต่าง ๆ ได้เลย แอบกระซิบว่าราคาไม่แพง เพราะคนในชุมชนช่วยดูแลด้วยกันเอง ยิ่งช่วงปิดเทอมด้วยแล้ว สามารถพาลูก หลาน มาเรียนรู้วิถีชุมชนได้ รับรองเด็ก ๆ ชอบใจแน่นอน!
 

 
       จุดเช็คอินจุดที่ 7  "คนพลัดถิ่น กับการให้อาหารเหยี่ยวแดงคอขาว" ถ้าใครอยากสัมผัสกับประสบการณ์แบบสุดพิเศษกับการชม 'การให้อาหารเหยี่ยวแดงคอขาว' ต้องแวะมาที่ร้าน 'คนพลัดถิ่น' เลย ช่วงเวลาที่เหยี่ยวจะออกมามากที่สุดก็ช่วงประมาณเที่ยงจนถึงประมาณบ่าย 2 โมงนิด ๆ โดยเหยี่ยวเหล่านี้จะอยู่กันตามธรรมชาติ พี่เจ้าของร้านบอกว่าเมื่อก่อนที่นี่เลี้ยงปลาในบ่อ แล้วพอให้อาหารปลา เหยี่ยวพวกนี้ก็จะมาจับปลาไปกิน เลยคิดว่าก็จัดเป็นจุดท่องเที่ยวที่สามารถชมเหยี่ยวเหล่านี้ด้วยเลยดีกว่า จากไอเดียนี้ทำให้ร้านอาหารคนพลัดถิ่น สามารถชมเหยี่ยวขาวคอแดงได้ตลอดทั้งปี จุดสังเกตของเหยี่ยวขาวคอแดงก็คือ ถ้าตัวไหนโตเต็มที่คอจะมีสีขาวให้เห็นอย่างชัดเจน เป็นความประทับใจส่งท้ายทริปของการมาเที่ยวจังหวัดตราด
 


 
สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจจะไปเที่ยวจังหวัดตราด
อย่าลืมแวะ 11 จุด 'Check In' ที่ไม่ควรพลาด ที่ 'Bugaboo.TV ปาเตี้ยว' นำมาฝากกันนะครับ!

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark