“แมนสรวง”ถูกพูดถึงและชื่นชมจนติดเทรนด์อันดับ #1 เพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น!
“แมนสรวง” ถูกพูดถึงและชื่นชมจนติดเทรนด์อันดับ #1
บน X มากกว่าล้านครั้ง เพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น!
ในรอบปฐมทัศน์ : Lift The Curtain Gala Premiere
ก้าวสู่เส้นทางการเป็นภาพยนตร์ไทยยอดเยี่ยมแห่งปีไปอีกขั้น
เหล่าเซเลปทั่วทุกวงการ ร่วมตบเท้าเดินพรมเข้าสู่โลกของ “แมนสรวง”
ยิ่งใหญ่สมกับเป็นว่าที่ภาพยนตร์ไทยแห่งปี สำหรับภาพยนตร์ไทยพีเรียดสืบสวนสอบสวน เรื่อง “แมนสรวง” โดยบริษัท บี ออน คลาวด์ ที่จัดงาน "แมนสรวงปฐมทัศน์ : Lift The Curtain Gala Premiere” ที่จัดขึ้นอย่างวิจิตร อลังการ โดยงานนี้ทาง บี ออน คลาวด์ ได้เนรมิตศูนย์การค้าสยามพารากอน และ โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ให้ย้อนกลับไปสู่สมัยรัชกาลที่ 3 แสดงสถาปัตยกรรมการตกแต่งและวัฒนธรรมผสมผสานได้งดงามประณีตบน X มากกว่าล้านครั้ง เพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น!
ในรอบปฐมทัศน์ : Lift The Curtain Gala Premiere
ก้าวสู่เส้นทางการเป็นภาพยนตร์ไทยยอดเยี่ยมแห่งปีไปอีกขั้น
เหล่าเซเลปทั่วทุกวงการ ร่วมตบเท้าเดินพรมเข้าสู่โลกของ “แมนสรวง”
ภายในงานได้รับเกียรติจากกระทรวงวัฒนธรรม โดย นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางสาววรรณสิริ โมรากุล ที่ปรึกษากระทรวงวัฒนธรรม โดย ภาพยนตร์เรื่อง “แมนสรวง” เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ไทยที่ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมซอฟต์เพาเวอร์ไทย
บรรยากาศภายในงานเริ่มต้นด้วยทีมผู้กำกับภาพยนตร์ นำโดย ปอนด์ กฤษดา, ชาติชาย เกษนัส และ ผศ.ดร.พันพัสสา ธูปเทียน ร่วมด้วยทีมนักแสดงแห่งยุค อย่าง มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง, อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์, บาส-อัศวภัทร์ ผลพิบูลย์, ต๋อง-ธนายุทธ ฐากูรอรรถยา, น็อต ณัฐสิทธิ์ ปัญญางาม, พง พงศกร พลสันติกุล และ อรอนงค์ ปัญญาวงค์ พร้อมด้วยศิลปิน วง COCKTAIL ที่เดินมาร่วมแสดงความยินดี บริเวณลาน แฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 โดยบริเวณภายในงาน มีเหล่าแฟนคลับกว่าพันคนมาร่วมให้การต้อนรับนักแสดงกันอย่างคับคั่ง
“งานภาพ การแสดง ฉาก ดนตรี องค์ประกอบในภาพยนตร์ถือว่ากลมกล่อม เก็บรายละเอียดได้ครบ เรียกได้ว่า สมบูรณ์แบบ ร่วมสมัย ตัวหนังแสดงถึงความเป็นไทย และยังส่งต่อคุณค่าความเป็นไทย พร้อมสร้างความเข้าใจให้ทุกชาติ ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นประตูบานแรกที่จะเปิดไปสู่ Soft Power ที่จะมีบริบทในสังคมโลกอย่างแท้จริง เพราะด้วยเรื่องของประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิต ควรปรับให้เข้ากับยุคสมัยและสากลโลก ภาพยนตร์แสดงให้เห็นว่าความหลากหลายของเชื้อชาติ วัฒนธรรม เป็นจุดแข็งของบ้านเรามากกว่าเป็นจุดอ่อน” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวหลังชมภาพยนตร์แมนสรวง
“ภาพยนตร์ “แมนสรวง” บอกเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในรัชสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในปี พ.ศ. 2393 ย้อนไป 173 ปี ที่รุ่งเรืองทั้งในด้านศิลปะวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเจริญสัมพันธไมตรีกับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะการทำการค้ากับชาวจีน ท่ามกลางความเรืองรองทางการค้าอันอุดมสมบูรณ์นั้นกลับซ่อนเร้นความลึกลับ และเงื่อนงำปริศนา ณ สถานที่แห่งหนึ่งที่ฉากหน้าคือสถานบันเทิงที่เปรียบได้ดั่งสรวงสวรรค์ของผู้คนมากมายหลายเชื้อชาติ แต่ฉากหลังกลับเต็มไปด้วยความมืดหม่นอนธกาล จนยากที่ใครจะคาดเดา แม้ว่าผู้คนเปรียบเปรยว่า “แมนสรวง” คือ ดินแดนสวรรค์ แต่เบื้องหลัง ‘แมนสรวง’ แห่งนี้ กลับซ่อนเร้น ปริศนา และเรื่องราวลึกลับที่รอให้ทุกคนมาค้นพบด้วยตัวเองในโรงภาพยนตร์”
ถึงเวลาพิสูจน์ความยอดเยี่ยม และปราณีตในทุกขั้นตอนของภาพยนตร์แนวใหม่ ที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการภาพยนตร์ไทย และได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย ร่วมเสาะหาความจริงของหน้าม่านมหรสพแห่งกิเลสและกลลวง ไปพร้อมกันกับผลงานภาพยนตร์ ที่จะเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน
“แมนสรวง” 24 สิงหาคมนี้ พร้อมกัน อย่างเต็มอรรถรสในโรงภาพยนตร์เท่านั้น