ผู้ป่วยโควิด-19 ในไทย เสียชีวิตรายที่ 2 แล้ว ครอบครัวเศร้ายังไม่มีวัดรับจัดงานศพ

เช้านี้ที่หมอชิต - ลูกชายคนขับรถทัวร์รับส่งชาวจีน อายุ 70 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคโควิด-19 โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า พ่อเสียชีวิตแล้ว หลังเข้ารักษาอาการป่วยมานานเกือบ 2 เดือน จนไม่มีเชื้อแล้ว แต่ปอดถูกทำลายจนไม่สามารถฟื้นตัวได้

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพพ่อ อายุ 70 ปี ทำอาชีพขับรถทัวร์รับส่งชาวจีน และป่วยเป็นโรคโควิด-19 โดยระบุข้อความว่า พ่อเสียชีวิตแล้วเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (23 มี.ค.) หลังต่อสู้กับโรคนี้และเข้ารักษาตัวมานานเกือบ 2 เดือน เนื่องจากปอดถูกทำลายและไม่สามารถฟื้นกลับมาได้ แม้ว่าแพทย์จะรักษาจนเชื้อได้หายไปแล้ว

ทีมข่าวได้พูดคุยกับภรรยาและลูก ๆ ของผู้เสียชีวิต บอกว่า สามีทำงานขับรถทัวร์รับส่งชาวจีน มักจะนอนและใช้ชีวิตที่รถ ไม่ค่อยกลับมานอนที่บ้าน จนช่วงประมาณวันที่ 28 มกราคม มีอาการป่วย ปวดหัว และปวดเมื่อยตัว จึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ขณะนั้นแพทย์ระบุว่าอาจเกิดจากอาการเครียด จึงจ่ายยาและให้กลับมาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน

กระทั่งผ่านไปประมาณ 5 วัน ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ สามีเริ่มมีอาการหนักขึ้น ต้องหายใจทางปาก และมีไข้ ครอบครัวจึงพาไปตรวจที่โรงพยาบาลเดิมอีกครั้ง แพทย์ระบุว่าปอดติดเชื้อ เมื่อบอกว่าสามีขับรถทัวร์รับส่งชาวจีน เจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรคจึงมารับตัว ส่งต่อไปยังสถาบันบำราศนราดูรทันที เพื่อตรวจหาเชื้อ จนได้รับการยืนยันว่าเป็นโรคโควิด-19 และพบว่าเป็นวัณโรคร่วมด้วย

จากนั้นแพทย์จึงรักษาทั้ง 2 โรคพร้อมกัน ส่วนคนในครอบครัว เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจวัดไข้ และเฝ้าระวังอาการทุกวัน

ลูกสาวของผู้เสียชีวิต บอกว่า ช่วงที่พ่อเข้ารักษาตัวมีอาการทรง ๆ ทรุด ๆ มาโดยตลอด กระทั่งวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แพทย์ได้รักษาจนไม่พบเชื้อแล้ว โดยหายจากทั้งโรคโควิด-19 และวัณโรค แต่ปรากฏว่าปอดของพ่อเสียหายไปหมดแล้ว และไม่สามารถฟื้นตัวได้ จนพ่อค่อย ๆ จากไปอย่างสงบ

ด้านภรรยาของผู้เสียชีวิต บอกว่า หลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าสามีได้เสียชีวิตลงแล้ว ทางครอบครัวพยายามติดต่อวัดในละแวกบ้าน เพื่อจะนำศพมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา แต่ปรากฏว่ายังไม่มีวัดไหนยอมรับทำพิธีศพให้ จึงอยากวิงวอนให้เห็นใจ เพราะผู้เสียชีวิตได้หายจากโรคโควิด-19 แล้ว และทางโรงพยาบาลอนุญาตให้รับศพนำกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ตามปกติ

ภรรยาผู้เสียชีวิตบอกด้วยว่า ในวันนี้ (24 มี.ค.) เธอและลูก ๆ จะพยายามติดต่อพูดคุยกับทางวัดอีกครั้ง ก่อนจะไปรับศพสามีจากโรงพยาบาล โดยตั้งใจจะตั้งสวดบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 3 วัน ก่อนฌาปนกิจต่อไป