มอบตัวแล้ว สามีเก่าโหด นัดภรรยา-สามีใหม่เคลียร์ปัญหาไม่ลงตัว ชักมีดแทงดับ

เช้านี้ที่หมอชิต - สามีเก่าหึงโหด นัดภรรยาและสามีใหม่มาเคลียร์ปัญหาแต่ไม่ลงตัว ชักมีดแทงดับคาบ้านเช่า 2 ศพ ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีข้ามจังหวัด สุดท้ายสำนึกผิด ยอมเข้ามอบตัวกับตำรวจ

ตำรวจเข้าตรวจสอบสภาพศพ นายจักรพันธุ์ คล่องวิชา อายุ 22 ปี ที่นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องนอนของบ้านเช่าหลังหนึ่ง ในตำบลเจริญธรรม อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี สภาพศพถูกแทงด้วยมีดเป็นแผลฉกรรจ์หลายแผล เสียชีวิตจมกองเลือด

ถัดไปบริเวณห้องโถงหลังบ้าน พบศพของ นางสาวดอกแก้ว เทพช่วย อายุ 26 ปี นอนเสียชีวิตเป็นศพที่สองในสภาพถูกแทงเป็นแผลฉกรรจ์ทั่วร่างเช่นเดียวกัน ที่เกิดเหตุตำรวจพบรองเท้าฟองน้ำ 2 คู่ และหน้ากากอนามัยตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนอาวุธของคนร้ายตำรวจไม่พบในจุดเกิดเหตุ 

ตำรวจระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) โดยผู้ก่อเหตุ คือ นายจิรวัฒน์ กิจนาวา ซึ่งเป็นสามีเก่าของ นางสาวดอกแก้ว ก่อนเกิดเหตุได้เข้ามาเคลียร์ปัญหาที่ค้างคากับ นางสาวดอกแก้ว และสามีใหม่ แต่เกิดคุยกันไม่ลงตัว จึงอาศัยช่วงทั้งสองคนเผลอ ใช้มีดปาดคอ นายจักรพันธุ์ ซึ่งเป็นสามีใหม่เสียชีวิต ก่อนหันมาจ้วงแทง นางสาวดอกแก้ว แล้วหลบหนีกลับบ้านเกิดที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์และทราบเรื่อง กระทั่ง นายจิรวัฒน์ เกิดสำนึกผิด ตัดสินใจเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ และเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง ตำรวจจึงรีบประสานมาที่ สภ.วิหารแดง พื้นที่เกิดเหตุให้ช่วยตรวจสอบ ก่อนจะพบว่ามีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นจริง

ด้าน พ่อของนายจักรพันธุ์ ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ลูกชายกับ นางสาวดอกแก้ว เพิ่งคบหากันได้ยังไม่ถึงปี ก่อนหน้านี้ นายจิรวัฒน์ ก็เคยส่งข้อความมาหาเขา ขอให้เขาช่วยเตือนลูกชายว่า อย่ามายุ่งกับฝ่ายหญิงอีก ซึ่งเขาก็เคยห้ามปรามลูกชายแล้ว แต่ทั้งสองคนก็ยังไปมาหาสู่กันอยู่ จนกระทั่งมาเกิดเหตุสลดขึ้น

หลังเกิดเหตุตำรวจได้นำรถตู้ไปรับตัว นายจิรวัฒน์ ผู้ต้องหาที่จังหวัดเพชรบูรณ์ กลับมาดำเนินคดีต่อที่ สภ.วิหารแดง โดยมาถึงโรงพักช่วง 02.00 น.ที่ผ่านมา (29 มิ.ย.) ซึ่ง นายจิรวัฒน์ ยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และอ้างว่าระหว่างขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ได้โยนมีดที่ก่อเหตุทิ้งลงข้างทาง แต่จำไม่ได้ว่าเป็นจุดไหน

เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ก่อนคุมตัวเขาไปสอบปากคำต่อ ส่วนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตำรวจต้องดูสถานการณ์ก่อนว่าผู้ต้องหาจะสมัครใจไปทำแผนฯ หรือไม่ และอาจต้องประเมินสถานการณ์ในที่เกิดเหตุอีกครั้งว่า จะมีประชาชนมารอดูมากน้อยแค่ไหน เพราะเหตุการณ์นี้เป็นเหตุสะเทือนขวัญ อาจสร้างความคับแค้นใจให้ชาวบ้าน และเกิดเหตุชุลมุนระหว่างการทำแผนฯ ได้