เปิดใจหนุ่มถูกตำรวจไล่ยิงจนรถเสียหลักตกคูน้ำ ทำเพื่อนดับ [เจาะเกาะติด]

ประเด็นเด็ด 7 สี - ความคืบหน้าเหตุการณ์ที่ชายอายุ 37 ปี ถูกไล่ยิงจนรถเสียหลักตกคูน้ำข้างทาง โดยพบว่าถูกยิงเข้าที่ศีรษะเสียชีวิต ล่าสุดเพื่อนที่ไปด้วยกันออกมา เปิดเผยวินาทีที่ต้องกระโดดลงจากรถหนีตาย พร้อมเผยชนวนเหตุหลังไปคืนปืนก่อนถูกยิง ติดตามรายงานจากคุณสิริรัตน์ รัตนสิมานนท์

15.18 น. วันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา กล้องวงจรปิดในพื้นที่หมู่ 4 ตำบลบางสมบูรณ์ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก จับภาพรถกระบะสีบรอนซ์คันหนึ่งขับมาตามถนนจนพ้นรัศมีกล้องวงจรปิด ก่อนที่ไม่นานรถคันนี้จะเสียหลักพุ่งตกลงไปในคูน้ำข้างทาง เกือบ 1 นาทีต่อมา กล้องวงจรปิดตัวเดิมจับภาพรถกระบะสีดำอีกคันซึ่งคาดว่าเป็นรถของคนร้ายขับผ่านไป

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรถกระบะสีบรอนซ์คันเกิดเหตุ พบร่องรอยกระสุนปืนที่กระจกหลัง โดยชายคนขับ คือ นายอลงกรณ์ อ่อนนาค อายุ 37 ปี ถูกยิงเข้าที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเสียชีวิต ส่วนมือยิงเป็น ตำรวจยศจ่าสิบเอก สังกัด สภ.ดงละคร ต่อมาได้เข้ามอบตัว

ล่าสุด ทีมข่าวติดต่อชายอายุ 24 ปีที่อยู่ในเหตุการณ์ บอกว่าก่อนเกิดเหตุ เขาและนายอลงกรณ์ได้นัดพบกับชายคนหนึ่งที่บริเวณสะพานข้ามคลอง ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 300 เมตร เพื่อนำปืนไปคืน เมื่อไปถึงพบชายคนดังกล่าวยืนอยู่กลางสะพาน จึงยื่นปืนจากภายในรถ จังหวะนั้นมีตำรวจนายหนึ่งเดินลงมาจากรถอีกคัน ด้วยความตกใจจึงขอตัวกลับแล้วขับรถออกไป ทันใดนั้นอีกฝ่ายก็ชักปืนยิง 3 นัด กระสุนนัดแรกเข้าที่ศีรษะของนายอลงกรณ์ ก่อนที่รถจะเสียหลักตกคูน้ำ ส่วนเขากระโดดลงจากรถ แล้วขึ้นรถจักรยานยนต์อีกคันเพื่อหนีตาย ยืนยันไม่ได้ยิงต่อสู้ เพราะปืนกระบอกเดียวที่มีได้คืนชายคนดังกล่าวไปแล้ว

ด้านพ่อของชายอายุ 24 ปี บอกว่า จากการพูดคุยกับลูกชาย พบว่าปืนกระบอกดังกล่าว ลูกน้องเจ้าของปืนได้นำมาจำนำไว้กับคนรู้จักเป็นเงิน 10,000 บาท ต่อมาผู้รับจำนำถูกจับในคดียาเสพติดจึงไหว้วานลูกชายและเพื่อนให้นำปืนไปคืนแลกกับเงินไถ่ถอน

ขณะที่หลังเกิดเหตุ ครอบครัวได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.องครักษ์ แต่ทางตำรวจกลับให้เตรียมเงินประกันตัวไว้เป็นเงิน 500,000 บาท ทั้งที่เป็นพยานในคดี จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย

ด้านญาติของผู้เสียชีวิต บอกว่า นายอลงกรณ์เป็นเครือญาติกับเจ้าของปืน ซึ่งเป็นรองประธาน อบต.แห่งหนึ่งในพื้นที่และไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน จึงไม่ทราบว่าทำไมถึงต้องยิงกันจนถึงแก่ชีวิต อีกทั้งมั่นใจว่านายอลงกรณ์ไม่น่าจะยิงต่อสู้กับตำรวจ เพราะถูกยิงเข้าที่ศีรษะตั้งแต่นัดแรก

ญาติบอกอีกว่า กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ โดยยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ด้านตำรวจยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำเพื่อนผู้เสียชีวิตที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างละเอียดเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง