คนร้ายวิ่งราวเงินร้านทอง อ้างป่วยโรคไต ไม่มีเงินรักษา [เจาะเกาะติด]

ประเด็นเด็ด 7 สี - ตำรวจสืบสวนนครบาลท่าข้าม ตามจับผู้ต้องหาที่วิ่งราวเงินสด 90,000 บาท หน้าร้านทองในห้างสรรพสินค้าย่านพระราม 2 ได้แล้ว เจ้าตัวอ้างต้องการนำเงินไปใช้หนี้เพื่อนที่ยืมมาจ่ายค่าฟอกไต และก่อเหตุไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ

นายชัยพิทักษ์ ตาลทอง อายุ 34 ปี ถูกตำรวจนครบาลท่าข้ามคุมตัวมาสอบปากคำ หลังจากเมื่อวานนี้ (10 ส.ค.) เขาก่อเหตุวิ่งราวเงินสด 90,000 บาท ไปจากร้านทองในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านพระรามสอง โดยเหตุการณ์นี้ มีกล้องวงจริปิดบันทึกพฤติกรรมของเขาเอาไว้ได้

ในภาพจะเห็นว่าระหว่างที่พนักงานหญิงที่อยู่ด้านขวาสุด กำลังนับเงินสดเตรียมไว้สำหรับลูกค้าที่จะนำทองมาขายอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ จำนวน 100,000 บาท เธอนำมาแบ่งเป็น 10 มัด มัดละ 10,000 บาท จังหวะนี้ จู่ ๆ นายชัยพิทักษ์ ก็เดินเข้ามาคว้าเอาเงินจากพนักงานหญิงแล้ววิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยได้ทำเงินหล่นไว้ 1 มัด จึงได้เงินไปทั้งหมด 90,000 บาท ซึ่งกล้องอีกมุมจะเห็นว่ามีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ต่างช่วยกันวิ่งไล่เขาไปอย่างกระชั้นชิด แต่ก็ไม่มีใครตามเขาได้ทัน

หลังเกิดเหตุมีพลเมืองดีหญิงคนหนึ่งเข้ามาแจ้งเบาะแสกับตำรวจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุเธอเห็นชายคนหนึ่งท่าทางมีพิรุธ เดินวนเวียนอยู่ในห้างตั้งแต่ช่วง 11.00 น. จึงแอบถ่ายรูปเอาไว้ จนกระทั่งช่วง 16.00 น. ได้ข่าวว่าเกิดเหตุวิ่งราวเงินสดที่หน้าร้านทอง เธอจึงรีบนำภาพที่ถ่ายไว้มาให้ตำรวจตรวจสอบ ก่อนจะพบว่าคนที่เธอแอบถ่ายไว้ เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวเงินในห้าง

นี่เป็นอีกเบาะแสสำคัญที่ทำให้ตำรวจสามารถตามรวบตัว นายชัยพิทักษ์ เอาไว้ได้ ขณะกำลังเดินทางมาฟอกไตที่คลินิกแห่งหนึ่งย่านบางขุนเทียน

ตำรวจเฝ้ารอจนนายชัยพิทักษ์รักษาตัวเสร็จ จึงคุมตัวมาสอบปากคำต่อที่โรงพัก นายชัยพิทักษ์ อ้างว่า เขาป่วยเป็นโรคไต ต้องเข้าฟอกไตสัปดาห์ละ 3 ครั้ง แต่ช่วงหลังตกงานไม่มีเงินใช้ จึงไปยืมเพื่อนมาจ่ายค่ารักษา วันเกิดเหตุเขาออกจากห้องพักเพื่อไปเดินเล่น และกินข้าวในห้างตามปกติ แต่ระหว่างที่เดินอยู่ในห้างเห็นพนักงานร้านทองกำลังนับเงินอยู่ เกิดอารมณ์ชั่ววูบ จึงก่อเหตุขึ้น โดยที่ไม่ได้เตรียมการมาก่อน

หลังก่อเหตุ นายชัยพิทักษ์ วิ่งหนีออกจากห้างมาขึ้นรถแท็กซี่ไปย่านสะแกงาม เพื่อซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยนใหม่ จากนั้นได้นั่งรถต่อไปที่จังหวัดปทุมธานี เพื่อหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านเพื่อน กระทั่งเช้าวันนี้เขาต้องกลับมาฟอกไตที่คลินิกตามนัด ก่อนถูกตำรวจรวบตัวได้

จากการตรวจสอบพบว่า นายชัยพิทักษ์ ได้นำเงินสดไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการหลบหนี ซื้อลอตเตอรี่ และใช้หนี้เพื่อนประมาณ 20,000 กว่าบาท พกติดตัวไว้ 15,000 บาท ส่วนที่เหลือฝากไว้ในบัญชีธนาคารส่วนตัว 2 บัญชี โดยขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งประสานติดตามเงินของกลางคืนจากเพื่อนผู้ต้องหา เพราะเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด และหากไม่ยอมคืนอาจมีความผิดฐานรับของโจรด้วย