ข่าวในหมวด ประเด็นเด็ด 7 สี

ตำรวจ ปคบ. เร่งสอบเหยื่อถูกบริษัทขายตรงฉ้อโกงกว่าพันคน - โดโด้ ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ประเด็นเด็ด 7 สี - ผู้เสียหายกว่า 30 คน เข้าแจ้งความตำรวจ ปคบ. เอาผิดบริษัทขายตรง ที่มีชื่อดาราชายรุ่นใหญ่ เกี่ยวข้องด้วย หลังถูกหลอกให้ร่วมลงทุน แต่กลับไม่ได้ผลตอบแทนตามที่โฆษณา เบื้องต้นมีผู้เสียหายกว่า 1,000 คน ขณะที่ตำรวจเร่งสอบสวนเหยื่อและรวบรวมหลักฐาน
พบลักษณะคล้ายแชร์ลูกโซ่ และเข้าข่ายฉ้อโกง ติดตามจากรายงานกับคุณไพจิตร ภานนท์

นี่เป็นคลิปวิดีโอที่ผู้เสียหายคนหนึ่งบันทึกไว้ขณะกำลังเข้าร่วมประชุมกับบริษัทขายตรงแห่งหนึ่ง ที่จำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องสำอาง เครื่องครัว และสินค้าอื่น ๆ จากในคลิปจะเห็นว่า ผู้ที่กำลังพูดเชิญชวนบุคคลให้เข้าร่วมเป็นสมาชิก คือ นายยุทธพิชัย ชาญเลขา หรือ โดโด้ นักแสดงชายรุ่นใหญ่ ซึ่งล่าสุดมีผู้เสียหายนำคลิปวิดีโอนี้เป็นหลักฐานเข้าแจ้งความ เพื่อเอาผิดกับบริษัทนี้และผู้บริหาร หลังสมัครสมาชิกและร่วมลงทุนแต่กลับไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลง

หนึ่งในผู้เสียหาย บอกว่า เขาเริ่มลงทุนตั้งแต่เดือนกันยายน 2562 เสียค่าสมัครเริ่มแรกคนละประมาณ 19,000 บาท มีการจัดโพรโมชัน หากแนะนำบุคคลอื่นมาร่วมเป็นสมาชิก ก็จะได้ค่าเชิญชวน พร้อมการันตีรายได้ให้ในช่วง 8 สัปดาห์แรก ช่วงแรกมีเงินปันผลตามที่ตกลง แต่ระยะหลังบริษัทมักจะปรับเปลี่ยนแผนให้ลงทุนเพิ่มอยู่เรื่อย ๆ อ้างว่าเพื่อให้ได้ค่าตอบแทนสูงขึ้น ซึ่งตัวเขาเองลงทุนไปรวมแล้วเกือบ 1 ล้านบาท

กระทั่งเดือนเมษายน 2563 บริษัทประกาศหยุดจ่ายเงินปันผลตามที่ตกลง อ้างช่วงสถานการณ์โควิด-19 ไม่สามารถทำยอดขายได้ โดยจะจ่ายเงินที่ค้างเอาไว้ให้กับสมาชิกทุกคน แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มีใครได้รับ เมื่อทวงถามก็บ่ายเบี่ยงและตัดช่องทางการติดต่อ

ผู้เสียหายยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมา เคยมีสมาชิกติดต่อไปยังนักแสดงชายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว แต่กลับได้รับคำตอบว่า ไม่รู้เรื่อง และไม่เกี่ยวข้อง ขัดแย้งกับภาพที่ปรากฏ เพราะทุกครั้งที่จัดงานประชุม หรือสัมมนา นักแสดงชายคนนี้ก็มักจะขึ้นเวทีและพูดในฐานะหุ้นส่วน สร้างความมั่นใจและน่าเชื่อถือให้กับบริษัททุกครั้ง

นายยุทธพิชัย เปิดใจกับทีมข่าว ยืนยัน ว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือมีตำแหน่งในบริษัทดังกล่าว เขาเป็นเพียงแบรนด์แอมบาสเดอร์ ที่ทางบริษัทจ้างมาเท่านั้น

ส่วนประเด็นที่ขึ้นพูดบนเวทีและอัดคลิปโพรโมตสินค้า เป็นบทที่บริษัทเตรียมไว้ให้ เขามีสถานะเป็นเพียงลูกจ้างเช่นเดียวกัน ยอมรับหลังเกิดเหตุผู้เสียหายพยายามติดต่อสอบถามมาจริง ซึ่งก็ยืนยันไปแล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

จากคำให้การของผู้เสียหาย และหลักฐานที่นำมามอบให้ตำรวจ เบื้องต้นตรวจสอบแล้วพบว่า แผนธุรกิจของบริษัทดังกล่าวคล้ายกับแชร์ลูกโซ่ และเข้าข่ายมีความผิดฐานฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย

กรณีดังกล่าว มีผู้เสียหายจำนวนกว่า 1,000 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างทยอยเข้าแจ้งความและให้ปากคำ ขณะเดียวกันตำรวจอยู่ระหว่างเร่งรวบรวมหลักฐาน และสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด เพื่อที่จะสามารถสรุปให้ชัดเจนว่า ผู้บริหารบริษัทดังกล่าวมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนหรือไม่

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark