ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

รถควบคุมฝูงชนพังยับ 5 คัน จากเหตุปะทะผู้ชุมนุมที่แยกเกียกกาย

เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจเร่งตรวจสอบรถควบคุมฝูงชน ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะกันที่แยกเกียกกาย เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ระหว่างตำรวจและกลุ่มราษฎร พบเสียหายทั้งคัน แผงวงจรไฟฟ้าควบคุมระบบทำงานพังยับ ซึ่งรถดังกล่าวมีมูลค่าคันละ 25 ล้านบาท เสียหายทั้งหมด 5 คัน เตรียมประเมินส่งซ่อม

นี่เป็นสภาพของรถควบคุมฝูงชน ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกลุ่มราษฎรกับตำรวจ ที่บริเวณแยกเกียกกาย หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศเคลื่อนขบวนมุ่งหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีรถควบคุมฝูงชนทั้งหมด 5 คัน ถูกนำมาปฏิบัติภารกิจ ฉีดน้ำผสมสารเคมีสกัดผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎร เพื่อให้ถอยห่างจากแนวรั้วลวดหนาม แต่ท้ายที่สุดก็ต้านไม่ไหว จึงยอมปล่อยรถทิ้งไว้ที่แยกเกียกกาย ทำให้ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมทำลายจนพังเสียหาย ทั้งภายนอกและในตัวรถ

ปกติรถควบคุมฝูงชนจะถูกออกแบบมาให้มีระบบความปลอดภัยสูง สำหรับป้องกันพลขับที่ทำหน้าที่อยู่ด้านใน เนื่องจากเป็นรถที่ใช้สำหรับสลายการชุมนุม คนภายนอกไม่สามารถเข้าไปได้อย่างเด็ดขาด แต่เนื่องจากการทำงานทั้งหมดต้องใช้ระบบไฟฟ้า หากมีส่วนใดได้รับความเสียหาย ก็จะไม่สามารถใช้งานได้ เหตุการณ์ที่แยกเกียกกาย รถควบคุมฝูงชนแต่ละคันไม่สามารถขับฝ่ากลุ่มผู้ชุมนุมออกมาได้ จึงทำให้ตกเป็นเป้า

จากการตรวจสอบสภาพรถพบว่าผู้ชุมนุมนำสีมาทา และเขียนข้อความแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ภายในถังน้ำมันมีเศษขยะและทรายที่ผู้ชุมนุมนำมาใส่ แผงวงจรไฟฟ้าภายในรถควบคุมฝูงชน ถูกทำลายจนพังเสียหาย และรื้อชิ้นส่วนและตัดสายไฟทั้งหมด จนไม่สามารถใช้งานได้

โดยรถควบคุมฝูงชนที่พังเสียหายจากเหตุปะทะระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับตำรวจที่แยกเกียกกาย มีจำนวนทั้งหมด 5 คัน มูลค่าคันละ 25 ล้านบาท ประเมินเบื้องต้นหากจะซ่อมอาจต้องเริ่มที่ระบบไฟฟ้าทั้งคัน ซึ่งมีมูลค่าสูง หลังจากนี้เตรียมส่งให้ฝ่ายช่างยนต์ตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อประเมินความเสียหายและแนวทางการซ่อมแซม เสนอผู้บังคับบัญชาอีกครั้ง

นอกจากรถควบคุมฝูงชนที่ได้รับความเสียหาย ยังมีทรัพย์สินทางราชการได้รับความเสียหายอีกหลายรายการ ทั้งรถบรรทุกน้ำ 2 คัน, รถควบคุมผู้ต้องหา 3 คัน, รถบัสโดยสารของตำรวจตระเวนชายแดน 3 คัน, รถตู้ 17 คัน, รถกระบะ 3 คัน และรถอเนกประสงค์อีก 3 คัน

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark