ลุงพล-ป้าแต๋น เข้าเครื่องจับเท็จ พิสูจน์คดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่
เจาะประเด็นข่าวค่ำ - ตำรวจนำ ลุงพล-ป้าแต๋น เข้าเครื่องจับเท็จ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของน้องชมพู่ คาดว่าจะใช้เวลาเข้าเครื่องจับเท็จอย่างน้อย 6 ชั่วโมง โดยมีสื่อมวลชนปักหลักรอทำข่าวจำนวนมาก
ช่วงเช้าวันนี้ ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 ได้นำรถตู้ออกไปรับตัวนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล พร้อมด้วย นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น คู่สามีภรรยา เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม ด้วยการเข้าเครื่องจับเท็จ ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เพื่อคลี่คลายคดีการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ
โดยทันทีที่มาถึง ตำรวจก็พาทั้งสองคนเข้าไปในตัวอาคารทันที เพื่อหลบเลี่ยงสื่อมวลชนที่มาปักหลักรอทำข่าวกันที่หน้าอาคารจำนวนมาก
กระบวนการเข้าเครื่องจับเท็จในวันนี้ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลา 10.30 น. โดยจะมีนักจิตวิทยาร่วมสอบปากคำด้วย เพื่อสังเกตอากัปกิริยาท่าทางต่าง ๆ ในการตอบคำถามของทั้งสองคน รวมทั้งใช้เครื่องมือในการตรวจวัดชีพจรหรือเครื่องจับเท็จ ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนของกฎหมาย โดยการเข้าเครื่องจับเท็จจะไม่ใช่จุดตัดสิน หรือชี้ขาดว่าใครเป็นคนผิดในคดีน้องชมพู่ แต่สามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งประกอบสำนวนคดีได้
โดยก่อนหน้านี้ ตำรวจก็ได้พาครอบครัวน้องชมพู่มาเข้าเครื่องจับเท็จที่นี่แล้ว โดยทยอยเข้าสอบปากคำกันทีละคน ซึ่งคนที่มาเข้าเครื่องจับเท็จ ประกอบด้วย พ่อ แม่ พี่สาวของน้องชมพู่ น้าต่าย น้าเสริม น้าแต และน้าฝน รวมทั้งหมด 7 คน ทยอยสอบปากคำกันตั้งแต่วันที่ 5-7 มกราคม ที่ผ่านมา กระทั่งวันนี้ถึงคิวของลุงพลกับป้าแต๋นที่จะมาเข้าเครื่องจับเท็จ
ทีมข่าวสอบถาม นายเจริญ มีพองแสน คนที่ขับรถพาลุงพลและป้าแต๋นเดินทางมาจากจังหวัดมุกดาหาร ระบุว่า พวกเขาเดินทางมารอเข้าเครื่องจับเท็จกันตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ซึ่งตลอดการเดินทางทั้งสองคนไม่มีท่าทีกังวลอะไร เพราะยังมั่นใจว่าไม่ใช่คนกระทำผิด
สำหรับคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เด็กหญิงอายุ 3 ขวบ เธอหายตัวไปจากหมู่บ้านกกกอก ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ก่อนพบกลายเป็นศพบนภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ออกมาระบุว่า จากข้อมูลพยานหลักฐาน พบว่าน้องชมพู่ไม่สามารถเดินขึ้นไปบนจุดพบศพบนภูเหล็กไฟได้ด้วยตนเอง โดยมีเหตุผล 8 ข้อชี้ให้เห็น แต่จนถึงขณะนี้ ตำรวจยังยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับ หรือดำเนินคดีกับใครได้ แต่จะยังคงสืบสวนต่อไป โดยไม่มีการปิดคดี