ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

ชาวเมียนมา แห่โลงศพสาวอายุ 19 ปี ถูกยิงเสียชีวิตขณะชุมนุมต้านรัฐประหาร

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ความคืบหน้ากรณีชาวเมียนมาออกมาร่วมกันชุมนุมต้านรัฐประหารในหลายเมือง ล่าสุด มีการปะทะกันขึ้น เป็นเหตุการณ์นองเลือด มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในวันเดียวถึง 38 คน ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงได้เดินขบวนแห่ศพของสาวอายุ 19 ปี นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย ที่เสียชีวิตจากการถูกเจ้าหน้าที่ยิงศีรษะ

จากกรณีเมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) เกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจและกลุ่มผู้ชุมนุมในหลายเมือง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องการปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาประท้วงต่อต้านรัฐประหาร โดยมีทั้งการยิงปืนกระสุนยางและกระสุนจริง ก๊าซน้ำตา ระเบิดควัน รวมไปถึงการใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตในวันเดียวมากถึง 38 คน

นางคริสติน ชราเนอร์ บวร์กเอนเนอร์ (Christine Schraner Burgener) ทูตพิเศษสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ประจำประเทศเมียนมา เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) ถือเป็นวันที่นองเลือดมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดรัฐประหาร เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตรวมตั้งแต่เกิดรัฐประหารพุ่งทะลุ 50 คนแล้ว และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก พร้อมเรียกร้องให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับผู้ปกครองทางทหาร เนื่องจากหลักฐานดังกล่าวระบุว่า กองกำลังความมั่นคงของเมียนมากำลังเพิ่มระดับปราบปรามการประท้วงต่อต้านรัฐประหาร

ขณะที่ล่าสุด วันนี้ (4 มี.ค.) กลุ่มผู้ชุมนุมในเมืองมัณฑะเลย์ ร่วมกันเดินขบวนแห่โลงศพของ นางสาวเจ ซิน หรือที่เรียกันว่า แองเจิ้ล สาวอายุ 19 ปี ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย ที่ถูกเจ้าหน้าที่ยิงศีรษะจนเสียชีวิต ขณะร่วมประท้วงเมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) โดยยานพาหนะที่ใช้บรรทุกโลงศพประดับประดาไปด้วยดอกไม้ และรูปภาพของเธอ

เธอเป็น 1 ใน 38 คน ที่เสียชีวิต และนับว่าเป็นผู้กล้าหาญ ที่ทำให้ท่อน้ำแตก เพื่อให้ผู้ชุมนุมใช้ล้างหน้าล้างตา ขณะถูกเจ้าหน้าที่ยิงก๊าซน้ำตาใส่ จึงทำให้การเสียชีวิตของเธอสร้างความโศกเศร้าไปทั่วโลก

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark