ข่าวในหมวด ประเด็นเด็ด 7 สี

เปิดปมวัยรุ่นไล่แทงอริกลางห้าง - ตร.คุมตัวทำแผนฯ

ประเด็นเด็ด 7 สี - ตำรวจคุมตัววัยรุ่นชายอายุ 18 ปี และ 21 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังใช้มีดไล่แทงคู่อริหน้าห้างสรรพสินค้าย่านรามอินทราเสียชีวิต อ้างป้องกันตัว สันนิษฐานปมขัดแย้งมาจากเรื่องการสั่งซื้อยาประเภทวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท

17.50 น. กล้องวงจรปิดหน้าห้างสรรพสินค้า ย่านรามอินทรา บันทึกภาพวัยรุ่นชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมา จอดที่ด้านหน้าและยืนอยู่ที่ลานจอดรถ คล้ายกำลังรอใคร ไม่นานทั้ง 2 คนก็เดินเข้าไปด้านใน

ผ่านไปเพียง 5 นาที กล้องวงจรปิดด้านข้างห้าง ซึ่งเป็นทางเดินไปห้องน้ำ บันทึกภาพวัยรุ่นทั้ง 2 คนกำลังทะเลาะวิวาทกับวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่ง โดยทั้ง 2 คนถูกไล่ทำร้าย จนเกิดเหตุชุลมุนกันขึ้น ก่อนที่จะมีชายอีกคนซึ่งเป็นฝ่ายคู่กรณี ชักปืนออกมากระหน่ำตีศีรษะและข่มขู่ ก่อนที่ทั้ง 2 กลุ่มจะวิ่งออกจากห้างไปคนละทิศทาง

หลังเกิดเหตุ ตำรวจรับแจ้งว่าพบศพ นายจิรเวช มาตุเวช อายุ 25 ปี นอนเสียชีวิต สภาพศพถูกแทงเข้าที่ด้านหลัง 2 แผลภายในซอยรามอินทรา 31 ถนนรามอินทรา เขตบางเขน ซึ่งเป็นซอยที่อยู่ติดกับห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุ และพบว่าเป็นวัยรุ่นกลุ่มที่ทะเลาะวิวาทกันในห้องน้ำของห้างดังกล่าว ตรวจสอบในตัวผู้เสียชีวิต พบยาวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภทที่ 2 จำนวนหนึ่ง และจากการตรวจค้นรถยนต์ของผู้เสียชีวิตที่จอดอยู่หน้าห้าง พบว่ามีซองปืนและขวดน้ำกระท่อม จึงเก็บเป็นหลักฐาน พร้อมไล่ติดตามจับชายอายุ 21 ปี และเยาวชนชายอายุ 18 ปีที่ก่อเหตุแทงนายจิรเวชได้

ผู้ต้องหาให้การว่า นายจิรเวชกับเพื่อนรวม 3 คน ได้ติดต่อซื้อของจากเขาทั้ง 2 คน จึงนัดมาเจอเพื่อรับสินค้าและจ่ายเงินกันที่ห้าง แต่ตกลงกันไม่ได้ จึงมีปากเสียงและไล่ทำร้ายกันตามภาพที่ปรากฏ ซึ่งคาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับยาวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภทที่ 2 ที่พบในตัวผู้เสียชีวิต

หลังสอบสวนตำรวจจึงคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปชี้จุดที่ห้างสรรพสินค้าเกิดเหตุ ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่าเขาใช้มีดแทงคู่กรณีจริง แต่ทำเพราะป้องกันตัว เนื่องจากถูกฝ่ายตรงข้ามทำร้ายก่อน แต่ยังปฏิเสธประเด็นเรื่องการจำหน่ายยาวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท

ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา ขณะนี้เร่งสอบปากคำให้ชัดเจนถึงปมเหตุว่าเกี่ยวข้องกับวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทหรือไม่ และได้เชิญตัวเพื่อนของผู้เสียชีวิตที่อยู่ในวันเกิดเหตุมาให้ปากคำแล้ว 1 คน ยังเหลืออีก 1 คน ซึ่งเป็นบุคคลที่ผู้ก่อเหตุระบุว่าใช้ปืนข่มขู่ ตามภาพกล้องวงจรปิด

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ตำรวจจะคุมตัวไปฝากขัง ดำเนินคดีในวันพรุ่งนี้ (5 มี.ค.) โดยแยกกัน เนื่องจากผู้ต้องหา 1 คน ยังเป็นเยาวชน ส่วนกลุ่มคู่กรณีขณะนี้ทราบตัวครบทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีเช่นเดียวกัน

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark