นายกฯ ยัน ไม่มีเคอร์ฟิว หรือ ล็อกดาวน์ ในทุกพื้นที่ ยกระดับพื้นที่สีแดง 18 จังหวัด

ข่าวภาคค่ำ - นายกรัฐมนตรี ยืนยัน ไม่มีเคอร์ฟิว หรือ lock down ในทุกพื้นที่ แต่ให้ยกระดับพื้นที่สถานการณ์เป็นพื้นที่สีแดง 18 จังหวัด ที่ต้องใช้มาตรการเข้มข้นในการควบคุมโรค

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. แถลงยืนยัน ไม่มีเคอร์ฟิว ไม่มีล็อกดาวน์ แก้ไขปัญหาการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่ขอให้ทุกคนยกการ์ด เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือ พร้อมเร่งรัดการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้คนไทยได้มีภูมิต้านทานโควิด-19 ตามเป้าหมาย 60% ของประชากร และรัฐบาลกำลังเจรจาผู้ผลิตวัคซีน จัดซื้อให้มากขึ้น ล่าสุด มีแนวทางนำเข้าวัคซีน Sputnik V จากรัสเซียด้วย

ขณะที่ นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ชี้แจง มติ ศบค. ให้ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์เป็นพื้นที่สีแดงควบคุมสูงสุด 18 จังหวัด และพื้นที่ควบคุมสีส้มอีก 59 จังหวัด มาตรการนี้จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 00.00 น. วันที่ 18 เมษายน หรือเที่ยงคืนวันเสาร์นี้เป็นต้นไป เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อควบคุมสถานการณ์

และให้ทั่วประเทศปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด สวนสนุก และเครื่องเล่นในห้างสรรพสินค้า พร้อมงดจำหน่ายและดื่มสุราในร้านอาหาร งดปาร์ตี และกิจกรรมรวมกลุ่มเกิน 50 คน และปิดการเรียนการสอน

สำหรับมาตรการในพื้นที่สีแดง จำกัดเวลาร้านอาหารและเครื่องดื่ม นั่งรับประทานได้ถึง 21.00 น. สั่งกลับบ้านได้ถึง 23.00 น. ร้านสะดวกซื้อ เปิด 04.00 น. ปิด 23.00 น. ส่วนสนามกีฬา ฟิตเนส โรงยิม ให้จำกัดผู้ชมในสนาม เช่นเดียวกับศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า เปิดได้ถึง 21.00 น.

ส่วนพื้นที่สีส้ม 59 จังหวัด ร้านอาหาร นั่งได้ถึง 23.00 น. ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า ให้ปิด 21.00 น. ส่วนร้านสะดวกซื้อเปิดได้ตามปกติ