ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

ระดมตรวจเชื้อ ฉีดวัคซีนในชุมชนคลองเตย

เคลียร์ข่าวชัด 7HD - วันนี้ทุกหน่วยงานยังทำงานอย่างหนัก เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ชุมชนคลองเตยไม่ให้ขยายวงกว้างออกไป ปัญหาในชุมชนคลองเตยเป็นปัญหาใหญ่ ต้องมีรูปแบบการจัดการแบบที่นำไปใช้แก้ไขปัญหาได้อย่างจริงจังและรวดเร็ว

วันนี้นายกรัฐมนตรีจึงได้ออกมาตรการแก้ไขปัญหา คลัสเตอร์ชุมชนคลองเตย เน้นย้ำให้ตรวจเชิงรุก และให้ทุกเขตในกรุงเทพมหานคร ทำงานเชิงรุก ควบคุมปัญหาให้ได้ และต้องฉีดวัคซีนให้ได้ภายใน 2 สัปดาห์

และที่น่าตกใจคือในพื้นที่กรุงเทพฯพบคลัสเตอร์ใหม่อีกหลายชุมชน ต้นต่อจากการไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านรัชดาภิเษก

การปูพรมตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับชาวชุมชนคลองเตย ทำกันตั้งแต่เช้า โดยระดมทั้งเจ้าหน้าที่นักรบด่านหน้า รถพระราชทาน และรถ Mobile LAB ลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อโควิดให้กับชาวชุมชน 2 จุด ที่ศูนย์เยาวชน ชุมชนบ่อนไก่ และลานจอดรถ ตลาดคลองเตย และวันพรุ่งนี้จะเพิ่มจุดตรวจเป็น 4 จุด แต่ละจุดตรวจได้ 1,000 คน ตั้งเป้าหมายจะตรวจให้ได้ 4,000 คน

ถ้าพบผลเป็นบวก หรือติดเชื้อก็จะเข้าสู่ระบบการคัดกรอง นำเข้าสู่ระบบโรงพยาบาลตามอาการ ถ้าติดเชื้อไม่มีอาการก็จะส่งไปที่ โรงพยาบาลสนาม และจะแจกยาฟาวิพิราเวียร์ให้ทันที ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่จะเริ่มให้ยากับผู้ติดเชื้อตั้งแต่เริ่มพบเชื้อ โดยจะให้ยาคนละ 50 เม็ด ทาน 5 วัน ๆ ละ 10 เม็ด

แต่การให้ยาฟาลิพิราเวียร์กับผู้ติดเชื้อในทันที ก็ถูกท้วงติงโดยแพทย์หลายท่าน ในวันพรุ่งนี้ พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เรียกประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เพื่อหารือถึงการให้ยาฟาวิพิราเวียร์

การระบาดระลอกนี้ แพทย์จะเริ่มให้ยาฟาวิพิราเวียร์  ทันทีกับผู้ป่วยที่เชื้อเริ่มลงปอด เพื่อยับยั้งอาการของโรค แต่จะยังไม่ให้ยากับผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ เพื่อเก็บยาไว้ให้กับผู้ป่วยอาการหนัก

นอกจากการลุยตรวจหาเชื้อแล้ว ยังเร่งระดมฉีดวัคซีนให้กับชาวชุมชนคลองเตย โดยเปิดจุดฉีดวัคซีนไว้ 2 จุด คือ ที่ห้างโลตัสพระราม 4 และโรงเรียนคลองเตยวิทยา แต่ละจุดฉีดได้ 500 คน และวันพรุ่งนี้จะเพิ่มวัคซีนฉีดให้ได้จุดละ 1,500 คน หรือวันละ 3,000 คน โดยมีเป้าหมายจะเร่งฉีดวัคซีนให้ครบทุกคนในชุมชน โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์จะควบคุมสถานการณ์ได้ พร้อมยืนยันการล็อกดาวน์พื้นที่ชุมชนคลองเตย ไม่สามารถทำได้เหมือนกับที่ ตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร เพราะชาวชุมชนส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่ต้องออกไปทำงานด้านนอกชุมชน และพื้นที่มีทางเข้าออกหลายทาง

วันนี้คนในชุมชนคลองเตย หลายคนรีบไปตรวจหาเชื้อและฉีดวัคซีน และการที่ยังไม่รู้ว่าใครติดเชื้อบ้างแล้ว ทำให้คนในชุมชนกังวลกันมาก จึงอยากตรวจคัดกรองหาเชื้อมากกว่าการฉีดวัคซีน เพราะหลายคนยังเชื่อว่า ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองติดโควิดหรือไม่ การฉีดวัคซีนไปก็ไม่เป็นผลอะไร

ซึ่งเรื่องนี้ นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ย้ำว่า ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าตัวเองติดโควิดหรือไม่ การได้รับวัคซีนจะส่งผลดีต่อตัวเองและครอบครัว คนใกล้ชิดมาก เพราะวัคซีนลดอาการป่วยไม่ให้เกิดภาวะรุนแรง มีอาการหนักได้

ขณะที่ นายกรัฐมนตรี สั่งไล่ตรวจหาเชื้อทั้ง 39 ชุมชน เน้นไปที่ 20 ชุมชนระบาดหนัก ตั้งเป้าตรวจไว้ 20,000 คน พร้อมสั่งลุยฉีดวัคซีน อย่างน้อยต้องได้ 50,000 คน ภายใน 2 สัปดาห์ และให้นำผู้ติดเชื้อออกจากพื้นที่ ดูแลรักษาตามอาการ คนกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัวอยู่ในบ้านจนกว่าจะได้รับแจ้งผล โดยให้ผู้นำชุมชนจัดหาอาหารให้ 

พร้อมสั่งให้เตรียมตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติม กำชับทุกเขตในกรุงเทพมหานครให้ทำงานเชิงรุก ใช้โมเดลคลองเตยเป็นต้นแบบ และให้หน่วยปฎิบัติรายงานตรง เพื่อนำข้อมูลมาประเมินความจำเป็น ในการปรับแผนควบคุมสถานการณ์ ย้ำเป้าหมายสูงสุด จำกัดวงการแพร่ระบาดให้เล็กที่สุด และควบคุมให้ได้เร็วที่สุด

ไม่ได้มีแค่ชุมชนคลองเตย และชุมชนบ่อนไก่เท่านั้น ที่พบการแพร่ระบาดในวงกว้าง ทาง ศบค. ได้รายงานพบการติดเชื้อที่ชุมชนแขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ถึง 88 คน กระจายตัวอยู่ในหลายพื้นที่ เช่น พื้นที่ชุมชนวัดญวน-คลองลำปัก 73 คน ชุมชนหลังบ้านมนังคศิลา 5 คน และชุมชนรถไฟสายแปดริ้วอีก 2 คน ซึ่ง 3 ชุมชนนี้ เป็นชุมชนแออัด ตอนนี้กำลังเร่งตรวจหาเชื้อ

ส่วนต้นตอการติดเชื้อ จากการสอบสวนโรคพบว่า จุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาด มาจาก 3 กลุ่ม ได้แก่ คลัสเตอร์ผับรัชดา พับแถวพระราม 2 และกลุ่มที่ไปเที่ยวแพ จังหวัดกาญจนบุรี

พบเชื้อเพิ่ม คลัสเตอร์โรงเหล็ก จ.สมุทรปราการ
หลังจากตรวจพบพนักงาน ทั้งแรงงานไทยและเมียนมา ทำงานอยู่ใน บริษัท ซีเอสพี สตีลเซ็นเตอร์ ตำบลในคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ติดเชื้อจำนวน 128 คน ซึ่งผลการสอบสวนโรค พบต้นตอมาจากชาวเมียนมาด้วยกัน และทางบริษัทฯ ได้ประกาศปิดโรงงานตั้งแต่วันที่ 22-24 เมษายน เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจหาเชื้อคนงานทั้งหมด ล่าสุด พบผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์นี้อีก 9 คน รวมเป็น 137 คน และผลการตรวจเชื้อกลุ่มเสี่ยงพบเพิ่มอีก 14 คน รวมผู้ติดเชื้อ 151 คน ขณะนี้กระจายเข้ารักษาตามโรงพยาบาลในพื้นที่แล้ว

ขณะเดียวกัน สำนักงานประกันสังคม ตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 เพื่อประสาน Hospitel ให้แก่ผู้ประกันตน ติดต่อได้ที่เบอร์ 1506 กด 6 เพื่อเป็นช่องทางติดต่อให้กับผู้ประกันตน ที่ไม่สามารถหาสถานที่ตรวจและสถานพยาบาลเข้ารับการรักษาในกรณีติดเชื้อได้ โดยให้บริการทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 08.00 - 17.00 น.

ส่วนคลัสเตอร์โต๊ะสนุ๊กเกอร์ และคลัสเตอร์ร้านอาหาร ที่พบเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายน มีผู้ติดเชื้อเกือบ 30 คน ล่าสุด มีคำสั่งย้ายพันตำรวจเอก ชัชรินทร์ญาณกร เฮงสุวรรณ์ ผู้กำกับการ สภ.พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ แล้ว และให้รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ปฏิบัติราชการแทน จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ขณะที่โรงพยาบาลสนาม หรือ ศูนย์ห่วงใยคนสาคร เริ่มรับผู้ติดเชื้อจากกรุงเทพมหานคร เข้ามาดูแลรักษา โดยชุดแรกเข้ามาเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว จำนวน 48 คน ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ส่วนโรงพยาบาลสนามอีก 2 แห่ง คือ แห่งแรกที่สภาอุตสาหกรรม หมู่ที่ 1 ตำบลท่าจีน อำเภอเมืองสมทุรสาคร ซึ่งรับผิดชอบดูแลผู้ติดเชื้อหญิงที่เป็นคนไทย ขนาด 200 เตียง โดยโรงพยาบาลสมุทรสาคร

และแห่งที่ 2 ตำบลท่าทราย ขนาด 400 เตียง รับผิดชอบดูแลผู้ติดเชื้อชายไทย จำนวน 400 เตียง โดยโรงพยาบาลบ้านแพ้ว ก็มีความพร้อมเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็พร้อมรับผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียว หรือ ไม่แสดงอาการ เข้ามาพักรักษาตัว 14 วัน ตามที่ ศบค.สั่งให้เตรียมความพร้อมโรงพยาบาลไว้ประมาณ 500 เตียง รองรับผู้ติดเชื้อจากกรุงเทพมหานคร

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark