ข่าวในหมวด ประเด็นเด็ด 7 สี

ผู้ต้องขังเรือนจำกลางคลองเปรม จำนวน 506 คน ติดเชื้อโควิด-19

ประเด็นเด็ด 7 สี - กรมราชทัณฑ์ เปิดเผยมีผู้ต้องขังเรือนจำกลางคลองเปรม ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 506 คน และมีเจ้าหน้าที่ติดเชื้ออีก 2 คน โดยได้คัดแยกผู้ป่วยตามลักษณะอาการเพื่อรักษาแล้ว

ผู้ต้องขังเรือนจำกลางคลองเปรม จำนวน 506 คน ติดเชื้อโควิด-19
ประเด็นข่าวนี้ถูกเปิดเผยโดย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยเป็นผลตรวจวิเคราะห์หาเชื้อโควิด-19 ในผู้ต้องขังเรือนจำกลางคลองเปรม พบการติดเชื้อ 506 คน และมีเจ้าหน้าที่ติดเชื้ออีก 2 คน การตรวจครั้งนี้เป็นการตรวจผู้ต้องขังแบบ 100% ในแดนฝึกอาชีพ (แดน 4) เบื้องต้นได้คัดแยกผู้ป่วยตามลักษณะอาการเพื่อรักษาแล้ว ต่อไปจะเร่งตรวจวิเคราะห์หาเชื้อผู้ต้องขังแดนอื่น ๆ จนครบทั้งหมด

ยอดติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ยังเกิน 2,000 คน ผู้เสียชีวิต 30 คน
ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวัน วันนี้อยู่ที่ 2,256 คน เป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 2,068 คน มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,523 คน จากการค้นหาเชิงรุก 545 คน มาจากการคัดกรองเชิงรุกในเรือนจำ 183 คน และเป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศ 5 คน ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 96,050 คน หายป่วยสะสม 62,316 คน อยู่ระหว่างรักษา 33,186 คน อาการหนัก 1,203 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 408 คน และมีผู้เสียชีวิต 30 คน เป็นผู้ชาย 16 คน และผู้หญิง 14 คน ส่วนใหญ่อยู่ใน กทม.11 คน

ปัจจัยเสี่ยงส่วนใหญ่มาจากติดเชื้อในครอบครัว โดยขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 548 คนแล้ว ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 161 ล้าน 824,477 คน เสียชีวิตสะสม 3 ล้าน 358,513 คน

ส่วนยอดการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ กทม.เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา มียอดทั้งสิ้น 7,247 คน พบเชื้อ 359 คน โดยพื้นที่ตรวจเข้มข้นพบว่าบางจุด เช่นแคมป์คนงานก่อสร้างในเขตหลักสี่ มีผู้ติดเชื้อสูงถึง 21.99% ส่วนแคมป์คนงานก่อสร้างในเขตวัฒนามีผู้ติดเชื้อ 14.25%  ทางกทม.จะเข้าไปค้นหาเชิงรุกทุกแคมป์ทั่วกทม. นอกจากนี้ในส่วนของสำนักงานประกันสังคม จะกระจายค้นหาเชิงรุกให้กับผู้ประกันตนใน 9 จังหวัด คือ กทม. ปทุมธานี สมุทรปราการ นนทบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ สมุทรสาคร ภูเก็ต และระยอง

ลุ้น ศบค.ประกาศคลายมาตรการเข้มร้านอาหารพรุ่งนี้
ศบค.ประชุมถึงหลักเกณฑ์การผ่อนคลายมาตรการใน 6 จังหวัด เพื่อลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจ และสังคม ขณะเดียวกันอยู่ภายใต้มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่ด้วย เบื้องต้นจะเปลี่ยนแปลงพื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือสีแดงเข้ม 6 จังหวัด อนุญาตให้บริโภคอาหารในร้านได้ไม่เกิน 25% ของที่นั่ง นั่งรับประทานอาหารได้ไม่เกิน 20.00 น. สั่งกลับบ้านไม่เกิน 23.00 น.

ส่วนพื้นที่ลดหลั่นลงมาจากสีแดง นั่งบริโภคอาหารได้ไม่เกิน 23.00 น. และพื้นที่ควบคุมสีส้ม บริโภคอาหารได้ตามปกติ แต่ทุกพื้นที่ยังควบคุมห้ามเรื่องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ส่วนจังหวัดไหนเป็นแบบใด จะมีการหาข้อสรุปในขั้นตอนสุดท้าย และนำเสนอนายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค.พิจารณาต่อไป โดยวันพรุ่งนี้จะประกาศว่ามีจังหวัดใดบ้าง

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark