ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

เร่งหาสาเหตุ หญิงเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิด-19

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ญาติรอรับศพหญิงอายุ 46 ปี กลับไปบำเพ็ญกุศล หลังเข้ารับวัคซีนแอสตราเซนเนกา แล้วมีอาการปวดหัว ไข้ขึ้นสูง จึงกินยาพาราและยาไมเกรนระงับอาการ ก่อนเกิดชักเกร็งและเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลชันสูตรจากแพทย์ ว่าเกิดจากการฉีดวัคซีนหรือไม่

เหตุการณ์เกิดขึ้นราวเที่ยงคืนครึ่งของเมื่อคืนนี้ ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ภายในบ้านพบศพหญิงอายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพ เยื่อบุตาซีด เล็บมือซีด มีฟองสีขาวและเลือดไหลจากปาก แต่ไม่พบบาดแผลภายนอกร่างกาย

หลานสาวผู้เสียชีวิต ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ ช่วง 11.00 น. วานนี้ (8 มิ.ย.) เธอได้พาหญิงอายุ 46 ปีไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ศูนย์ฉีดวิทยาลัยเทคโนโลยีไทยบริหารธุรกิจ เพื่อรับการฉีดวัคซีนยี่ห้อแอสตราเซนเนกาเข็มแรก นั่งรอดูอาการจนถึงช่วงเที่ยงก่อนกลับบ้าน ต่อมาช่วง 18.00 น. เริ่มมีอาการไข้ขึ้นสูงถึง 37.8 องศาฯ  มีอาการปวดหัว ปวดเมื่อย อ่อนเพลียและกินยาพาราเซตามอลไป 2 เม็ด ต่อมาช่วง 22.00 น. เริ่มมีอาการปวดศีรษะคล้ายไมเกรน ซึ่งเป็นโรคประจำตัว จึงกินยาแก้อาการปวดไมเกรน แต่ผ่านไปเพียง 15 นาที อาการกลับทรุดหนักขึ้นกว่าเดิม เริ่มสำลัก ชักเกร็ง และหมดสติ  เพื่อนบ้านพยายามปั๊มหัวใจช่วยเหลือแล้ว แต่สุดท้ายเธอเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงนำศพเธอส่งชันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลภูมิพลอดุลเดช ซึ่งเหตุการณ์นี้สร้างความกังวลให้เพื่อนบ้านอย่างมาก เนื่องจากได้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนยี่ห้อนี้ไว้เช่นเดียวกัน

ล่าสุด ช่วงเที่ยงวันนี้ ญาติผู้เสียชีวิตเดินทางเข้ารับศพด้วยความโศกเศร้าและปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ในขณะที่ผลชันสูตรเบื้องต้นออกมา พบว่าเธอเสียชีวิตจากระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ แต่นี่เป็นเพียงการชันสูตรเบื้องต้นเท่านั้น จะต้องรออีก 45 วัน ถึงจะทราบผลการชันสูตรอย่างละเอียด หลังจากนี้จะนำศพผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลที่อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา 

ขณะที่ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช.เขต 13 อยู่ระหว่างตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งหากพบว่าเกิดจากการฉีดวัคซีน ก็จะนำเรื่องเข้าให้อนุกรรมการ สปสช. เป็นคนพิจารณา และเยียวยาตามขั้นตอน

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark