ฝนถล่มแม่สอด น้ำเมยท่วมสูง ชาวไทย-เมียนมา อพยพวุ่น
ประเด็นเด็ด 7 สี - ชาวบ้านที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก อ่วมหนัก เจอทั้งโควิด-19 ระบาด และน้ำท่วมซ้ำเข้าขั้นวิกฤต หลังฝนตกต่อเนื่องนานนับสัปดาห์ ทำให้น้ำเมยล้นตลิ่งท่วมตลาดสุดประจิมที่ริมเมย และเกาะกลางแม่น้ำเมย หรือที่เรียกกันว่า "เกาะโนแมนแลนด์" จมมิด ชาวเมียนมานับร้อยที่อาศัยกลางเกาะ หนีตายโกลาหล
หลังฝนตกหนักมานานนับสัปดาห์ และตกแบบไม่หยุดทำให้พื้นที่ 5 อำเภอ แนวชายแดนจังหวัดตาก ซึ่งตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาฝนยังคงตกอย่างหนัก และตกมาถึงช่วงเช้าวันนี้ (27 ก.ค.) ทำให้แม่น้ำเมยซึ่งเป็นแม่น้ำที่กั้นแนวพรมแดนไทย-เมียนมา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยที่จุดตรวจวัดระดับน้ำที่เชิงสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 1 บ้านริมเมย อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก แม่น้ำเมยไหลล้นตลิ่งและมีปริมาณน้ำสูงกว่าแนวตลิ่งถึง 1 เมตร และกำลังเพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมเกาะกลางแม่น้ำเมย หรือที่เรียกกันว่า เกาะโนแมนแลนด์ จนน้ำท่วมมิดเกาะกลางนอกเขตประเทศไทย ซึ่งทำให้ชาวเมียนมาจำนวนนับร้อยคนที่อาศัยบนเกาะแห่งนี้ ต้องว่ายน้ำหนีตายมารวมกันที่ขอบรั้วชายแดน ฝั่งอำเภอแม่สอด และอีกหลาย ๆ คนสามารถขึ้นเรือหางยาวข้ามหนีตายจากกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากกลับไปยังจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ได้สำเร็จ
โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารนำกำลังเฝ้าป้องกันแนวชายแดนแม่สอด อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากสถานการณ์น้ำท่วมสองฝั่งประเทศ
ส่วนที่ตลาดริมเมย ซึ่งเป็นตลาดการค้าชายแดนที่สำคัญติดแนวแม่น้ำเมยและพื้นที่ตลาดริมเมย เป็นพื้นที่ต่ำ พบว่าภายในตลาดริมเมยถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร กำลังทหาร และ อส.อำเภอแม่สอด พร้อมพ่อค้าแม่ค้าชาวตลาดริมเมย ต้องช่วยกันระดมกำลังขนย้ายสิ่งของของมีค่า ซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง และต้องแข่งกับเวลา หลังปริมาณน้ำยังคงเพิ่มระดับอย่างต่อเนื่องทุกชั่วโมง และยังประสบปัญหาน้ำในลำห้วยสาขาต่าง ๆ ในอำเภอแม่สอดหนุนเพิ่มจากฝนตกหนัก จนทำให้สถานการณ์ไม่ดีนัก
ด้าน นายกิตติศักดิ์ บุญจันทร์ หัวหน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ใกล้ขั้นวิกฤตแล้ว เนื่องจากฝนยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ทางเทศบาลตำบลท่าสายลวดพร้อมเจ้าหน้าที่ได้ส่งเรือท้องแบนเร่งเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมในทุกหมู่บ้านแล้ว ซึ่งความเสียหายครั้งนี้ คาดว่าจะมีประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง และถ้าหากฝนยังไม่หยุดตกก็อาจจะส่งผลทำให้ระดับน้ำเมยที่ท่วมสูงอยู่แล้ว ก็จะเพิ่มระดับมากยิ่งขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับเหตุการณ์แม่น้ำเมยล้นตลิ่งจนทำให้เกิดน้ำท่วมสองฝั่งประเทศ ทั้งประเทศเมียนมา และประเทศไทย เคยเกิดครั้งล่าสุดเมื่อ 10 ปีที่แล้ว กระทั่งครั้งนี้มาเกิดซ้ำอีก
