นาทีชายหัวร้อนผลักอก-สาวหมัด จะชกหน้ากู้ภัย

เช้านี้ที่หมอชิต - ไปที่ข่าวนี้กู้ภัยกำลังปฐมพยาบาลให้เยาวชนชายและหญิงที่ประสบอุบัติเหตุ จู่ ๆ ผู้ปกครองของเด็กมาถึงไม่ฟังอะไร เอะอะโวยวาย แถมยังจะทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่

เป็นภาพที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยบันทึกคลิป ขณะกำลังเดินตามหลังชายสวมเสื้อสีแดง พร้อมกับตะโกนเสียงดังท่าทางไม่พอใจ คล้ายกับจะสาวหมัดชกใส่เจ้าหน้าที่กู้ภัย แต่ยั้งมือไว้แล้วเดินไปที่รถยนต์ ซึ่งคลิปวิดีโอนี้ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง นำมาโพสต์ พร้อมข้อความ ระบุว่า "เจ้าหน้าที่มาช่วยลูกคุณ ที่ประสบอุบัติเหตุ คุณไม่ให้เกียรติเราไม่ว่า แต่จะทำร้ายกู้ภัยผู้หญิงมันเกินไป" เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 13 กันยายน บนนถนนสายหนึ่งที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

ทีมข่าวเช้านี้ที่หมอชิต จึงลงพื้นที่ไปสอบถามข้อเท็จจริงกับชายอายุ 54 ปี ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะที่กำลังเดินทางไปทำงาน ที่เทศบาลตำบลเจดีย์แม่ครัว อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างทางเจออุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกันสองคัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงเข้าไปช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่อเคลียร์พื้นที่ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย มาช่วยผู้บาดเจ็บ เป็นเยาวชนชาย 1 คน หญิง 1 คน มีแผลถลอกตามร่างกาย ซึ่งระหว่างที่รอกู้ภัยมาช่วย เยาวชนชายได้โทรศัพท์ไปบอกพ่อ ไม่นานก็มีชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นพ่อของเยาวชนทั้งสองคน มาที่เกิดเหตุ มาถึงก็เอะอะโวยวาย เข้ามาต่อว่า ว่าใครเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ลูกของตนเอง โดยไม่สอบถาม หรือฟังใครเลย รวมทั้งมีรายงานว่า ผู้ก่อเหตุพยายามจะตบหน้ากู้ภัยผู้หญิง ที่กำลังปฐมพยาบาลให้กับลูกชายของชายคนดังกล่าว ตนเองจึงเข้าไปห้าม แต่กลับถูกชายคนนี้ผลักอกและพยายามจะชก จึงรีบบอกให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยถ่ายคลิปวิดีโอไว้

ชายอายุ 54 ปี บอกด้วยว่า ผู้ชายที่อยู่ในคลิปวิดีโอไม่ได้เพียงหาเรื่องเขา แต่ยังพยายามหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว โดยไม่ฟังคำอธิบายใด ๆ แถมยังอ้างตัวว่า ตนเองทำงานเป็นคนขับรถของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะพาลูกทั้งสองคนขึ้นรถไปโรงพยาบาลทันที โดยไม่สนใจว่ากู้ภัยที่กำลังช่วยปฐมพยาบาลและทำแผลให้

โดยวันนี้ (14 ก.ย.) ทางหน่วยกู้ชีพ และกู้ภัยที่อยู่ในเหตุการณ์ จะเข้าไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.แม่แฝก ให้ดำเนินคดีกับชายหัวร้อนคนดังกล่าว ฐานขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ และพยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่าชายหัวร้อยคนนี้ไม่ได้ทำงานที่โรงพยาบาลที่เขากล่าวอ้าง แถมยังมีประวัติก่อเหตุชกต่อยคนกลางสี่แยกไฟแดงมาแล้ว

ฟังความต้องฟังทั้งสองข้าง หลังจากนี้ต้องรอฟังคำชี้แจ้งจากฝั่งชายเสื้อสีแดงที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย