ตีตรงจุด : ส่องแผนเปิดเมือง 1 ต.ค. โอกาสที่มาพร้อมความเสี่ยง

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ตีตรงจุดวันนี้ จะกางแผนเปิดเมือง 5 จังหวัด ทั้ง กทม. ชลบุรี เพชรบุรี เชียงใหม่ และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจะเปิดเฉพาะในบางพื้นที่ เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม วางแนวทางกันไว้อย่างไร ถอดบทเรียนจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เพื่อนำมาปรับปรุงการเปิดเมืองรอบใหม่นี้มากน้อยแค่ไหน มีเสียงเตือนจากแพทย์อย่างไร จะได้รู้ครบ จบในช่วงนี้

เหลืออีกแค่ 29 วัน จะครบกำหนดเปิดประเทศ 120 วัน ตามที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศไว้เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา รัฐบาลได้ทยอยเปิดเมืองชิมลาง ไล่ตั้งแต่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สมุยพลัส โมเดล 7+7 พังงา กระบี่ และล่าสุด 5 จังหวัด เปิดรับนักท่องเที่ยวเพิ่มเติม คือ กทม. ยังได้กำหนดเขตพื้นที่ ส่วนเพชรบุรีเปิดเมืองที่ชะอำ, ประจวบคีรีขันธ์ ที่หัวหิน, เชียงใหม่ ที่อำเภอแม่ริม อำเภอเมือง อำเภอแม่แตง และดอยเต่า และชลบุรี ที่เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง และอำเภอสัตหีบ ภายใต้แคมเปญ อาทิ กรุงเทพแซนด์บ็อกซ์ หัวหิน รีชาร์จ และ ชาร์มมิง เชียงใหม่

สำหรับสถิติการฉีดวัคซีนในพื้นที่ 5 จังหวัด ที่กำลังจะเปิดรับนักท่องเที่ยว กรุงเทพฯดูจะมีตัวเลขดีที่สุด โดยวันนี้มียอดฉีดวัคซีนสะสมแล้วกว่า 10 ล้านโดส เท่ากับคน กทม. ฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้วกว่า 90% แต่จะให้นอนใจได้จริง ๆ ต้องฉีดวัคซีนเข็มสองให้ได้ 70%

ตามแผนเปิดประเทศที่รัฐบาลวางไว้แบ่งเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วยระยะที่ 1 เริ่มตั้งแต่กรกฎาคม-กันยายน ระยะที่ 2 คือ 1 ตุลาคม ในพื้นที่ 5 จังหวัด ซึ่งจะจำกัดในบางพื้นที่ ไม่ได้เปิดฟรีทั้งจังหวัด และระยะที่ 3 เปิดเพิ่มอีก 6 ภาค 21 จังหวัด เริ่มวันที่ 15 ตุลาคม ไปจนถึงระยะที่ 4 จะเริ่ม 1-15 มกราคม ปีหน้า เปิดพื้นที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยการจับคู่ท่องเที่ยวระหว่างกัน

สำหรับแผนการท่องเที่ยวในพื้นที่ 5 จังหวัด จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR เป็นลบ สามารถท่องเที่ยวได้แบบไม่ต้องถูกกักตัว ในรูปแบบ Sealed Area หรือเที่ยวในพื้นที่จำกัด นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะให้นักท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สามารถเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับพื้นที่ 5 จังหวัดนี้ในลักษณะ 7+7 โดยจากเดิมที่นักท่องเที่ยวต้องพำนักในภูเก็ต 14 วัน ลดลงเป็น 7 วัน เดินทางไปจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งอีกเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 7 วัน เช่น จากภูเก็ตไปพัทยา

อย่างไรก็ตามยังมีสิ่งน่ากังวล คือตัวเลขผู้ติดเชื้อใน กทม.15 วัน นับจากวันที่ 1-15 กันยายน คือวันนี้ มีผู้ติดเชื้อมากถึง 52,361 คน เฉลี่ยมีผู้ติดเชื้อมากถึง 3,490 คนต่อวัน แต่มีสัญญาณบวก คือตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 3,000 คนต่อเนื่องกันสองวันแล้ว และด้วยเหตุผลที่ยอดผู้ติดเชื้อใน กทม. ยังสูงอยู่ จึงทำให้ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า พื้นที่ กทม. อาจจะยังไม่สามารถเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 ตุลาคมได้

ขณะที่ 15.00 น.ที่ผ่านมา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะหารือร่วมกับ ผู้ว่าฯ กทม. เพื่อกำหนดเขตพื้นที่ที่จะเปิดเมืองในวันที่ 1 ตุลาคม โดยคาดว่าจะเป็นเขตใจกลางเมือง เช่น เขตพระนคร ซึ่งเป็นพื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์ จึงต้องติดตามผลการประชุมว่าจะมีการกำหนดเขตพื้นที่เปิดรับนักท่องเที่ยวได้ก่อนตามแผน หรือยังมีข้อกังวลใด จนต้องเลื่อนออกไปหรือไม่

และเมื่อดูรายละเอียดการฉีดวัคซีนใน 4 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ คืบหน้าไปเพียงแค่ 40% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 70% ประมาณ 400,000 คน ส่วนเข็มสองเพิ่งจะฉีดไปได้ประมาณ 160,000 คนเท่านั้น ซึ่ง นายแพทย์วรัญญู จำนงประสาทพร รอง สสจ.เชียงใหม่ ยังเป็นห่วงว่าหากวัคซีนไม่มาตามนัด อาจกระทบแผนเปิดเมือง 1 ตุลาคม โดยอาจต้องเลื่อนไป 1-2 สัปดาห์

เช่นเดียวกับพื้นที่ชะอำ เพชรบุรี มีความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนไปราว 50% ของเป้าหมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างรอวัคซีนเพิ่มเติม หากยังไม่ได้รับการจัดสรรอาจต้องเลื่อนออกไปก่อน

ส่วนที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฉีดวัคซีนไปได้แล้ว 68,097 คน จากเป้าหมาย 90,564 คน ถือว่ามีอัตราเร่งที่ดี โดย นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ สสจ.ประจวบคีรีขันธ์ มั่นใจว่าจะพร้อมที่จะเปิดเมืองวันที่ 1 ตุลาคม ตามแผนได้

สำหรับเมืองพัทยา ชลบุรี ขณะนี้การฉีดวัคซีนคืบหน้าไป 70% ตามเป้าหมายที่วางไว้แล้ว โดย นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองพัทยา มั่นใจเปิดเมืองได้ตามแผน