เหยื่อร้องดีเอสไอ ถูกหลอกลงทุนออนไลน์ คาดเสียหายกว่า 28,000 ล้านบาท

เจาะประเด็นข่าว 7HD - กลุ่มผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับ ดีเอสไอ ให้ช่วยตรวจสอบบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง หลังหลงเชื่อร่วมลงทุนซื้อบล็อกเช่าพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแล้วถูกเชิดเงินหนี คาดความเสียหายสูงถึง 28,000 ล้านบาท

กลุ่มผู้เสียหายกว่า 50 คน หอบเอกสารและหลักฐานการลงทุนทำธุรกิจกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ยื่นต่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ให้ช่วยตรวจสอบ หลังพบบริษัทแห่งนี้มีพฤติกรรมชักชวนคนมาลงทุน โดยประกาศตัวว่า เป็นบริษัททำธุรกิจมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐรายแรกของไทย เป็นธุรกิจให้แอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่าพื้นที่เซิร์ฟเวอร์เพื่อให้บริการ

ส่วนที่ชวนให้ลงทุนคือเปิดให้ซื้อบล็อก หรือพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเซิร์ฟเวอร์ ในราคาบล็อกละ 3,000 บาท เมื่อมีผู้ให้บริการแอปพลิเคชันมาเช่าใช้งาน จะได้ผลตอบแทนในอัตรานาทีละ 55 สตางค์ ที่ผ่านมาก็ได้รับเงินตอบแทนตามปกติ อีกทั้ง บริษัทยังออกเอกสารกำกับภาษีทวิ 50 ที่สามารถนำไปยื่นต่อกรมสรรพากรได้ตามปกติด้วย ทำให้พวกเขาหลงเชื่อร่วมลงทุนด้วยต่อเนื่อง

กระทั่งเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จู่ ๆ บริษัทก็ไม่จ่ายเงินค่าตอบแทนให้นักลงทุน เมื่อทวงถามก็บ่ายเบี่ยง อ้างว่าบริษัทถูกโกงเงินไป 600 ล้านบาท และไม่สามารถโอนเงินได้ เพราะติดเพดานการโอน พอไปตรวจสอบที่ตั้งของบริษัทดังกล่าวในซอยลาซาล 41 ก็พบว่า ปิดเงียบไม่มีคนอยู่ จึงตัดสินใจเข้ามาร้องเรียนที่ดีเอสไอ หากพบว่าเข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่ ก็ขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย

ด้าน พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ก็มีผู้เสียหายอีกกลุ่ม เดินทางเข้ามาร้องเรียนให้ดีเอสไอ ช่วยตรวจสอบบริษัทนี้เช่นกัน ซึ่งกลุ่มที่มาในวันนี้เป็นกลุ่มที่สองแล้ว และทางดีเอสไอจะเร่งรวบรวมเอกสารตรวจสอบให้เร็วที่สุด

ขณะนี้ ตรวจสอบพบผู้เสียหายแล้ว 1,621 ราย รวมมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 150 ล้านบาท ซึ่งนี้เป็นเพียงจำนวนผู้เสียหายที่รวบรวมได้ในขณะนี้เท่านั้น แต่หากมีผู้ลงทุนตามจำนวนที่บริษัทดังกล่าวอ้างจริง จะมีความเสียหายสูงถึงกว่า 28,000 ล้านบาท