ชายคลั่ง ขังลูก-ภรรยาไว้ในบ้าน พร้อมต่อถังก๊าซกับสายไฟหวังจุดระเบิด

เช้านี้ที่หมอชิต - ชายอายุ 19 ปี เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ขังภรรยาและลูกน้อยอยู่ในบ้าน พร้อมต่อสายไฟกับถังก๊าซหุงต้ม ขู่จะจุดระเบิด เจ้าหน้าที่พยายามเจรจาเกลี้ยกล่อม

ตำรวจ สภ.บ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี พร้อมกู้ภัยมูลนิธิสว่างอริโยบ้านหมี่ เข้าตรวจสอบที่บ้านพักหลังหนึ่ง ลักษณะเป็นบ้านยกพื้นสูง ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านกล้วย อำเภอบ้านหมี่ เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่มองเข้าไป พบว่าบริเวณประตูบ้านมีถังก๊าซหุงต้มต่อกับสายไฟเป็นชนวน หวังระเบิดบ้าน ภายในมีหญิงสาวอุ้มลูกน้อยนั่งอยู่ เจ้าหน้าที่พยายามตะโกนให้คนในบ้านออกมา แต่ชายอายุ 19 ปี สามีเจ้าของบ้านไม่ยอม ซ้ำยังใช้ไม้ทุบตีทำลายข้าวของภายในบ้านเสียงดังสนั่น โดยมีเสียงลูกร้องดังออกมาเป็นระยะ ๆ จากนั้นไม่นาน ผู้ก่อเหตุก็เปิดหน้าต่างออกมาคุยกับเจ้าหน้าที่ แต่ขู่ว่าหากเข้ามาจะจุดชนวนระเบิดเผาบ้าน และจะไม่ยินยอมให้จับกุมตัวไปเด็ดขาด อ้างว่ากลัวถูกตำรวจทำร้ายร่างกาย

ตำรวจพยายามเจรจาอยู่นาน แต่ไม่เป็นผล สุดท้ายประสาน นายสุภัทร ลายน้ำเงิน กำนันตำบลบ้านกล้วย มาช่วยเจรจา จนชายอายุ 19 ปี ยอมมอบตัว พร้อมถอดสายชนวนออกจากถังก๊าซหุงต้ม พาลูกและภรรยาออกมาจากบ้านได้อย่างปลอดภัย

ชายอายุ 19 ปี อ้างว่า ที่ผ่านมาเขาถูกพี่สาวภรรยาใส่ร้าย กล่าวหาว่าเขาเสพยาเสพติด พอทราบว่าพี่สาวภรรยาจะกลับมาที่หมู่บ้าน จึงต้องการจะเคลียร์กันเรื่องนี้ และถ้ายังพูดคุยกันไม่รู้เรื่องก็จะจุดระเบิดถังก๊าซ

ขณะที่ แม่ยายของผู้ก่อเหตุ บอกว่า ก่อนหน้านี้ เธอและลูกสาว (ภรรยาผู้ก่อเหตุ) ทราบว่าลูกเขยจะไปคุยกับพี่สาวของภรรยา จึงขอร้องไม่ให้รื้อฟื้นเรื่องเก่า ที่ผ่านมาขอให้ยกโทษกันไป แต่ลูกเขยกลับไม่พอใจ เกิดอาการคลุ้มคลั่ง จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

ทั้งนี้ ทางครอบครัวไม่ติดใจจะดำเนินคดี (ตอนแรกแม่ยายแจ้งความ แต่ภายหลังได้ถอนแจ้งความแล้ว) เพราะสงสารหลาน และตกลงกันว่าจะเหมารถยนต์เพื่อให้ลูกเขยพาภรรยาและลูกกลับไปทำมาหากินที่บ้านเกิด จังหวัดยะลา พนักงานสอบสวน สภ.บ้านหมี่ จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะว่ากล่าวตักเตือนไม่ให้ใช้อารมณ์และก่อเหตุดังกล่าวอีก ซึ่งผู้ก่อเหตุรับปากจะตั้งใจทำมาหากิน ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับทางพี่สาวของภรรยาอีกต่อไป