สั่งปิดลัทธิประหลาด ขอคืนพื้นที่ป่าใน 7 วัน จ.ชัยภูมิ

ประเด็นเด็ด 7 สี - หลังจากที่เจ้าหน้าที่ในจังหวัดชัยภูมิ นำหมายศาลบุกค้นพื้นที่ลัทธิประหลาดในอำเภอคอนสาร และพบหลักฐานเอาผิดเพิ่มอีก พร้อมขอคืนพื้นที่ภายใน 7 วัน ล่าสุดวันนี้ปิดประประกาศด้านหน้าทางเข้า "ห้ามบุคคลภายนอกเข้า-ออกพื้นที่"

เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่จังหวัดชัยภูมิ นำหมายศาลบุกค้นลัทธิประหลาด ในอำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ เพื่อตรวจสอบหาหลักฐานเอาผิดเพิ่มเติม และทำความเข้าใจกับผู้เลื่อมใสลัทธิดังกล่าว พร้อมทวงคืนพื้นที่สาธารณะประโยชน์กว่า 26 ไร่ กระทั่งพบหลักฐานเอาผิดเพิ่มเติม โดยเฉพาะการแปรรูปอาหาร พบขนมหลายชนิดแขวนอยู่และวางเรียงรายในกระท่อม และยังพบว่ามีอาหารแห้งนำไปขึ้นรถเร่ขายในพื้นที่ต่าง ๆ นอกจากนั้น ยังพบจุดผลิตปลาร้า/แจ่วบอง หมักอยู่ในถังพลาสติกส่งกลิ่นเน่าเหม็น มีหนอนขึ้นเต็มไปหมด จึงเก็บรวบรวมหลักฐาน แล้วนำไปตรวจสอบเพื่อเอาผิดเพิ่มเติม เนื่องจากการบรรจุสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีเลขที่ อย. ผลิตสินค้า

โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาทีมข่าวได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ เข้าไปสำรวจพื้นที่ด้านในลัทธิประหลาดอีกครั้ง เนื่องจากมีประกาศห้ามไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป เราพบว่าผู้เลื่อมใสอพยพออกไปหมดแล้ว เหลือเพียงสิ่งของบางส่วนที่กลุ่มผู้เลื่อมใสทิ้งไว้ ส่วนสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นวัว ควาย หนู สุนัข รวมถึงกวางรูซา กรมปศุสัตว์จะเข้ามาดูแลและเตรียมเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่

ทีมข่าวได้สอบถาม นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า การตรวจค้นเมื่อวานนี้ เพื่อประโยชน์ของรูปคดี เนื่องจากพนักงานสอบสวนยังคงมีข้อสงสัย ตั้งแต่ประเด็นเรื่องของเวชกรรม ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวกับแพทย์โดยตรง และตรวจสอบว่ามีการปรุงยาในการรักษาโรคลักษณะใดบ้าง ประเด็นที่ 2 เรื่องกฎหมายที่ดินสาธารณะประโยชน์ และประเด็นที่ 3 เกี่ยวกับกรมป่าไม้และตำรวจ ปทส. ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 หากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดโดยไม่ละเว้น

และจากการตรวจค้นพบสิ่งผิดกฎหมายหลายรายการ บางรายการถึงกับตกใจ ไม่คิดว่าจะเป็นแหล่งกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบ และแจ้งข้อหาเอาผิดเพิ่มเติม

ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมจาก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่าพื้นที่ลัทธิประหลาดแห่งนี้ ถูกประกาศให้ใช้ พ.ร.บ.การสาธารณสุข 2535 ให้เป็นพื้นที่ระงับเหตุรำคาญ เนื่องจากมีทั้งขยะและสิ่งปฏิกูล อาจเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรค โดยหลังจากกันพื้นที่ห้ามบุคคลเข้า-ออกแล้ว ก็จะเร่งเข้าไปชำระล้างพื้นที่ เพื่อกำจัดเชื้อโรค ซึ่งต้องอพยพผู้เลื่อมใสออกจากพื้นที่ก่อน