ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ตร.รู้เบาะแสคนร้ายจี้ชิงทอง เกือบ 200 บาท จ.ตาก

เช้านี้ที่หมอชิต - รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่เร่งรัดคดีคนร้ายบุกเดี่ยวจี้ชิงทองเกือบ 200 บาท และเงินสดอีก 100,000 บาท ขณะที่ พยานแวดล้อมระบุ ผู้ก่อเหตุไม่มีท่าทีพิรุธ จนคิดว่าเป็นพนักงานของร้านทอง

จากกรณีคนร้ายรูปร่างผอมสูง บุกเดี่ยวจี้ชิงทองที่ห้างทองเยาวราช สินทวี ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาตาก อำเภอเมือง จังหวัดตาก โดยคนร้ายเดินเดี่ยวเข้ามาที่ร้าน ก่อนจะใช้อาวุธปืนจี้พนักงานหญิง บังคับให้เอาทองมาให้ โดยพนักงานหญิงได้ยกถาดทองรูปพรรณส่งให้ จำนวน 7 ถาด คนร้ายได้เททองในถุงขยะสีดำ รวมทั้งหมดประมาณ 193 บาท และบังคับเอาเงินสดไปอีก 100,000 บาท โดยใช้เวลาปฏิบัติการไม่ถึง 2 นาที ก่อนจะเดินหนีไปด้วยความใจเย็น แล้วก็ขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถ ขี่หลบหนีไปอย่างลอยนวล เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 19.30 น. ของวันที่่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา

เมื่อวานนี้ (16 พ.ค.) พลตำรวจเอก สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ไปยังร้านทองจุดเกิดเหตุ พร้อมกับประชุมกำชับให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามและจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยล่าสุดพบเบาะแสเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนีและพาหนะที่ใช้ก่อเหตุแล้ว ส่วนหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในที่เกิดเหตุยังไม่ได้มากเพียงพอ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนค้นหาเบาะแสเพิ่มเติม คาดว่าในอีก 1-2 วันนี้ น่าจะสามารถระบุตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้ พร้อมกันนี้ ยังได้ประสานไปยังตำรวจพื้นที่จังหวัดข้างเคียง ให้ประสานขอความร่วมมือไปยังร้านทอง ให้สังเกตพฤติกรรมของผู้ที่นำทองรูปพรรณไปขาย หากพบพิรุธหรือพบบุคคลที่มีลักษณะใกล้เคียงกับคนร้ายรายนี้ ให้รีบแจ้งตำรวจทันที

ขณะที่ ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองตาก ได้สอบพยานปากสำคัญไปแล้วหลายปาก ทั้งพนักงานในห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุ และพนักงานร้านขายทอง โดยเฉพาะพนักงานหญิงที่ส่งทองให้กับคนร้าย ซึ่งได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก รวมทั้งหลักฐานสำคัญเป็นภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกลักษณะและการกระทำของคนร้าย ชุดเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้อย่างชัดเจน เบื้องต้น คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่จังหวัดตาก เนื่องจากรู้เส้นทางหลบหนีและเตรียมการมาเป็นอย่างดี จนกระทั่งสบโอกาสช่วงวันพืชมงคล และวันวิสาขบูชา ที่เป็นวันหยุดยาวต่อเนื่อง 4 วัน และใช้ช่วงเวลาที่ห้างฯ ใกล้จะปิดลงมือก่อเหตุ

และจากการสอบถามผู้ค้ารายย่อยร้านค้าภายในห้างฯ ที่เกิดเหตุ ก็ระบุตรงกันว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงที่ห้างฯ ใกล้ปิด ผู้คนไม่พลุกพล่าน ขณะนั้นร้านค้ารายย่อยแต่ละร้านต่างอยู่ระหว่างเก็บของเพื่อจะปิดร้าน จึงไม่มีใครสนใจอะไร ประกอบกับคนร้ายไม่มีท่าทางที่ผิดสังเกตอะไร ไม่มีการส่งเสียงเอะอะหรือโวยวายเสียงดัง จนหลายคนคิดว่าเป็นพนักงานของร้านด้วยซ้ำไป กระทั่งมาทราบภายหลังว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุจี้ชิงทอง

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark