ครูดูแลเด็กหญิงที่ผูกคอเสียชีวิต เปิดใจครั้งแรก จ.พัทลุง

เช้านี้ที่หมอชิต - หลังเกิดเหตุสลดกับเด็กนักเรียนหญิงอายุ 14 ปี ที่ตัดสินใจผูกคอเสียชีวิต ที่คาดว่าน่าจะมาจากสาเหตุความเข้าใจที่ผิดพลาดของหัวหน้ากลุ่มงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียน ล่าสุด คุณครูคนดังกล่าวได้ออกมาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ระบุว่า ครูพยายามช่วยเหลือทุกวิถีทางแล้ว และขอความเป็นธรรมกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย

โดยเมื่อวานนี้ (18 พ.ค.) นางสาวจรรยา ชูเมฆ หัวหน้ากลุ่มงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนสตรีพัทลุง ได้ออกมาเปิดใจครั้งแรกกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกเสียใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาทางโรงเรียนได้เตรียมการความช่วยเหลือนักเรียนคนดังกล่าวไว้พร้อมแล้ว

คุณครูยังชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ทราบเรื่องเด็กหญิงมาตั้งแต่เรียนชั้น ม.1 และ ม.2 โดยเด็กหญิงมาพักอาศัยอยู่กับผู้ปกครองซึ่งเป็นญาติในอำเภอควนขนุน กระทั่งขึ้นเรียนชั้น ม.3 และในวันเปิดเทอม วันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ครูที่ปรึกษาแจ้งว่าเด็กหญิงไม่มาเรียน เนื่องจากแม่ของเด็กหญิงไม่ให้มาเรียน เพราะต้องการให้ย้ายไปเรียนที่จังหวัดสงขลา เนื่องจากมีปัญหาด้านการเงิน แต่เมื่อสอบถามเด็กหญิงต้องการจะเรียนที่จังหวัดพัทลุงต่อ โดยจะมาเช่าบ้านอยู่คนเดียว จึงได้ให้คำปรึกษาไปว่าเด็กยังเป็นผู้เยาว์ การที่จะมาเช่าบ้านโดยไม่มีผู้ปกครองดูแลย่อมทำไม่ได้ จนต่อมาก็ได้รับแจ้งจากครูที่ปรึกษาของเด็กคนนี้ว่าเด็กยังไม่มาโรงเรียน ตนเองจึงนำเรื่องไปปรึกษากับรองผู้อำนวยการโรงเรียนฯ เพื่อหาทางช่วยเหลือ

กระทั่งต่อมา เด็กหญิงได้โทรศัพท์มาหาเพื่อนในชั้นเรียน ตอนนั้นครูที่ปรึกษาจึงให้ตนเองคุยโทรศัพท์กับเด็กหญิง ถึงได้ทราบว่าเด็กหญิงพักอยู่กับพ่อเลี้ยงที่อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา ซึ่งยอมรับว่าขณะนั้นไม่มีข้อมูลว่าเด็กหญิงใช้ชีวิตอยู่ที่สงขลา เป็นอย่างไร และมีอะไรเกิดขึ้นกับเด็กบ้าง โดยเด็กหญิงยังบอกด้วยว่าไม่ทราบว่าแม่ไปทำงานที่ไหน แต่แม่จะส่งเงินมาให้สัปดาห์ละ 400 บาท และต้องแบ่งกับพ่อเลี้ยงคนละครึ่ง (คนละ 200 บาท) และขณะที่พูดคุยกันเด็กหญิงยังคงยืนยันต้องการจะไปเช่าห้องพัก และเรียนต่อที่จังหวัดพัทลุง แต่ทางโรงเรียนไม่เห็นด้วย เพราะเกรงว่าหากอยู่คนเดี๋ยวจะได้รับอันตราย จึงแนะนำว่าหากแม่ของเด็กหญิงต้องการให้ย้ายโรงเรียนก็ควรย้าย แต่หากเด็กหญิงยังยืนยันว่าจะไม่ย้าย ทางโรงเรียนได้เตรียมให้ไปพักที่บ้านพักเด็กและเยาวชนโคกชะงาย ซึ่งมีระบบการส่งต่อนักเรียน มีที่พัก และมีรถรับส่ง แต่ต้องให้ผู้ปกครองมาเซ็นยินยอมตามขั้นตอน กระทั่งวันที่ 13 พฤษภาคม ก็มาทราบเรื่องว่าเด็กเสียชีวิต โดยเรื่องที่เกิดขึ้นคุณครูยืนยันว่าช่วยเหลือเด็กหญิงอย่างเต็มที่ตามขั้นตอนแล้ว และไม่คิดจะผลักไสให้ไปเรียนที่อื่น

ส่วนกรณีที่มีสื่อนำเรื่องไปขยายความจนกลายเป็นประเด็นฉาว คุณครูบอกเพียงว่าขอความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน ครู และโรงเรียน เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นลึกซึ้ง และไม่มีใครรู้ว่าปัญหาที่แท้จริงเริ่มมาจากจุดใด