ฝูงผึ้งหลวงรุมต่อยอาสาสมัครกู้ภัย บาดเจ็บ 2 คน จ.พิษณุโลก
เช้านี้ที่หมอชิต - เหตุการณ์นี้แม้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญก็ยังพลาดได้ อาสาสมัครกู้ภัยช่วยชาวบ้านกำจัดรังผึ้งหลวงออกจากพื้นที่ แต่ยังไม่ทันได้เริ่มงาน ก็เจอฝูงผึ้งรุมต่อยได้รับบาดเจ็บ 2 คน ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนมิตรภาพ ตำบลอรัญญิก อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก อาสาสมัครกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองอรัญญิก เร่งเข้าช่วยเหลืออาสาสมัครกู้ภัย 2 คน เป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน ที่ถูกผึ้งหลวงรุมต่อยตามร่างกายและใบหน้า หลังจากพยายามช่วยชาวบ้านไล่ผึ้งหลวงที่สร้างรังอยู่บนคานเหล็ก อาคารด้านหลังร้านแอร์รถยนต์
เบื้องต้น เพื่อน ๆ กู้ภัยต้องรีบช่วยกันนำเอาเหล็กในออก และรีบนำตัวอาสาสมัครกู้ภัยที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คน ส่งโรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์ทำการช่วยเหลือ เนื่องจากมีอาการผิดปกติ เจ็บปวด และแน่นหน้าอก หลังจากถูกผึ้งหลวงหลายตัวรุมต่อย
เหตุการณ์ในครั้งนี้เริ่มจากที่ นายพศิน ธนธนาบูรณ์ เจ้าของร้านซ่อมแอร์ ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากเทศบาลเมืองอรัญญิก เนื่องจากมีคนงานของร้านถูกผึ้งรุมต่อยหลายครั้ง จนล่าสุด เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา คนงานได้รับบาดเจ็บมากกว่าทุกครั้ง ในฐานะเจ้าของร้านเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้ที่เข้ามาในบริเวณนี้ จึงร้องขอความช่วยเหลือมาเอาผึ้งหลวงออกไปจากพื้นที่ จนมีอาสาสมัครกู้ภัยถูกผึ้งรุมต่อย และนำตัวส่งโรงพยาบาล
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงปรับแผนในการกำจัดรังผึ้งหลวงใหม่อีกรอบ โดยครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้สวมชุดดับเพลิง เป็นชุดที่รัดกุมเพิ่มมากขึ้น และมีการตรวจเช็กเพื่อความปลอดภัยอย่างละเอียด ป้องกันไม่ให้ผึ้งหลวงหลุดรอดเข้าไปต่อยตามร่างกายได้เหมือนครั้งแรก
โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้วิธีการต่อเหล็กกับถังก๊าซและเปิดจุดไฟ เร่งแรงดันก๊าซเพิ่มเปลวไฟให้ไปถึงรังผึ้งหลวง ใช้เจ้าหน้าที่ 2 ชุด คือ ด้านบนและล่าง เจ้าหน้าที่ด้านล่างจะจุดไฟสร้างควันเพื่อไล่ผึ้ง ส่วนเจ้าหน้าที่ด้านบนจะใช้ไฟเผา ประกอบไปด้วย 3 คน คนแรกเป็นคนเร่งก๊าซ คนที่ 2 เป็นคนพ่นไฟ และคนที่ 3 เป็นคนฉีดยาฆ่าแมลง เพื่อป้องกันไม่ให้ผึ้งหลวงเข้ามาใกล้หรือเข้ามาต่อยเหมือนครั้งแรก จนสุดท้ายสามารถจัดการกับรังผึ้งได้ และเจ้าหน้าที่ทุกคนปลอดภัย
เจ้าหน้าที่บอกว่า บางคนมองมาอาจคิดว่าที่เจ้าหน้าที่ทำคือการทรมานสัตว์ แต่ตอนแรกเจ้าหน้าที่ใช้วิธีนุ่มนวลแล้วแต่ไม่ได้ผล และเป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงานและประชาชนในละแวกนั้น จึงจำเป็นต้องใช้วิธีดังกล่าว
