ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

เตือนภัย มิจฉาชีพหลอกเด็กทำงานออนไลน์ สูญเงินกว่า 460,000 บาท

เจาะประเด็นข่าว 7HD - มาเตือนภัยคุณผู้ชมกันหน่อย โดยเฉพาะน้อง ๆ หนู ๆ ที่เข้าถึงการใช้งานในโลกออนไลน์ได้ง่ายในปัจจุบัน เด็ก ม.6 หางานออนไลน์ทำสร้างรายได้ กลับถูกมิจฉาชีพหลอกสูญเงินไปกว่า 460,000 บาท

เรื่องมันมีอยู่ว่า มีร้องนักเรียน ม.6 คนหนึ่ง ที่บ้านฐานะยากจน พ่อแม่แยกทางกัน น้องต้องทำงานเพื่อส่งตัวเองเรียน ปกติก็ทำงานตามร้านอาหารต่าง ๆ เก็บเงินเพื่อเอาไว้เป็นทุนสำรอง ด้วยความเป็นเด็กอยากมีรายได้เพิ่ม เห็นมีประกาศหางานในโลกออนไลน์ จึงตัดสินใจสมัคร เพียงแค่กดไลก์ 1 ไลก์ จะได้เงินไลก์ละ 10 บาท พอได้เงิน แอดมินที่น้องทำงานด้วย ก็เริ่มชักชวนให้น้องไปทำภารกิจในแอปพลิชันชื่อดัง ด้วยการให้น้องเติมเงิน แล้วจะได้เงินคืนทันที เนื่องจากทำงานกดไลก์ได้เงินมาตลอด น้องจึงไว้ใจ เริ่มเติมเงินเข้าไปครั้งแรกจำนวน 500 บาท จากนั้นเมื่อภารกิจสำเร็จ ได้เงินคืนมา 550 บาท ทดลองทำอยู่ 3-4 ครั้ง โดยเพิ่มเงินเป็นหลักพัน ก็ได้เงินคืนกลับมาตลอด

พอเห็นว่าน้องเริ่มเชื่อใจแก๊งมิจฉาชีพ จึงใช้กลอุบายหลอกน้องว่าได้รับภารกิจพิเศษ แต่ต้องเติมเงิน 100,000 บาท เพื่อให้สามารถทำภารกิจได้ และเมื่อทำภารกิจเสร็จแล้วจะได้เงินพร้อมกำไรทันที น้องจึงนำเงินเก็บของตัวเองเติมเข้าไป พอเติมแล้ว ปรากฏว่าไม่สามารถทำภารกิจได้ แอดมินจึงมาหลอกน้องต่อว่าถ้าจะไม่ให้เงินสูญหายไป ต้องเติมเงินเข้ามาอีก ให้เป็นวีไอพี จะสามารถถอนเงินได้ โดยไม่จำเป็นต้องผ่านภารกิจ ด้วยความเป็นเด็กอยากได้เงินคืน จึงตัดใจไปยืมเงินเพื่อนและเงินตัวเองที่มีเติมเข้าไป และถูกหลอกเรื่อย ๆ แต่ละครั้งชื่อบัญชีเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ กระทั่งเติมเงินไปแล้ว 360,000 บาท แก๊งมิจฉาชีพก็พยายามหลอกล่อน้องเรื่อย ๆ ว่าเดี๋ยวถ้าเติมมาอีก 100,000 บาท ทางแอดมินจะเติมเงินให้อีก 300,000-400,000 บาท เพื่อให้ครบ 1 ล้านบาท แล้วจะสามารถถอนเงินออกไปได้ทันที เพราะจะอยู่ในระดับวีวีไอพี น้องก็หลงเชื่อไปยืมเงินผู้ใหญ่ที่เคารพมาอีก 100,000 บาท เติมเข้าไป ส่วนผู้ใหญ่ที่น้องไปยืมเงินก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเอ็นดูน้องที่มีความตั้งใจเรียน เป็นเด็กดี คิดว่าคงมีความจำเป็นต้องใช้จริง ๆ

จนสุดท้ายมารู้ตัวอีกที คือโดนหลอกจนหมดตัว ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ เพราะมิจฉาชีพกำหนดเงื่อนไขไว้มากมาย เงินจึงคาอยู่ในแอปฯ เมื่อถามก็กลับบ่ายเบี่ยง มิหนำซ้ำมิจฉาชีพก็ยังพยายามที่จะหลอกน้องอยู่ต่อเนื่อง ให้เติมเงิน น้องจึงตัดสินใจปรึกษาเจ้าของร้านที่ทำงาน ได้พยายามติดต่อไปยังมิจฉาชีพ และมีการนัดเจอกันแต่สุดท้ายทั้งคู่ก็โดนเท

เบื้องต้นจากการตรวจสอบ พบว่า ชื่ออาจารย์ที่มิจฉาชีพนำมาแอบอ้างนั้น เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น และได้มีการแจ้งความกับตำรวจไว้ก่อนหน้าแล้ว ว่าถูกมิจฉาชีพนำไปแอบอ้าง ทั้งนี้น้องได้ไปแจ้งความเพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีกับแก๊งมิจฉาชีพนี้แล้ว

เป็นกำลังใจให้กับน้องผู้เสียหาย ด้วยความเป็นเด็กอาจตามไม่ทันกลโกงของมิจฉาชีพ ต้องฝาก พลตำรวจโท กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ ช่วยกันติดตามจับกุม และสกัดแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้ ไม่ให้ไปหลอกลวงน้อง ๆ หรือประชาชนคนอื่นได้อีก

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark