วิจารณ์ยับ คนรวยปลูกกล้วยเลี่ยงภาษีที่ดิน

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ชาวโซเชียลและนักวิชาการ จวกภาคเอกชนหันปลูกกล้วย เลี่ยงภาษีที่ดิน ขณะที่ชาวสวนกล้วย หวั่นผลผลิตราคาตก

ปรากฏการณ์เปลี่ยนผืนดินรกร้างสู่ดงกล้วยนับหมื่นต้น ที่ภาคเอกชนรายหนึ่ง นำมาโพสต์ไว้ในโลกออนไลน์ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากชาวโซเชียลว่า ที่ทำเช่นนี้เพราะต้องการหลีกเลี่ยงภาษีหรือไม่ ซึ่งเจ้าของผืนดินเปล่าจำนวน 50 ไร่ ริมทะเลสาบ ย่านเมืองทองธานี มีการชี้แจงว่า จะนำมาใช้ในครัวของกิจการ และแบ่งปันช่วยเหลือสังคมพร้อมกับเป็นการสร้างพื้นที่สีเขียว ทำให้สภาพแวดล้อมน่าอยู่ในละแวกนั้น

เรื่องนี้ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เพิ่งจะเกิดขึ้น สำหรับผู้ประกอบการ และประชาชนบางราย ซึ่งมีที่ดินและต้องการหลบเลี่ยงการเสียภาษีในอัตราเต็มพิกัด

เนื่องจากพระราชบัญญัติที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 ได้กำหนดไว้ว่า ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่า หรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ ให้มีอัตราภาษีสูงสุดไม่เกิน 1.2% แต่จะปรับเพิ่มอัตรา 0.3% ทุก 3 ปี แต่อัตรารวมไม่เกิน 3%

อาทิ ที่ดินมูลค่า 0-50 ล้านบาท อัตราภาษีคือ 0.3% หรือ ล้านละ 3,000 บาท หรือ ที่ดินมูลค่า 1,000-5,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.6% หรือล้านละ 6,000 บาท และที่ดินมูลค่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป อัตรา 0.7% หรือล้านละ 7,000 บาท

แต่ในในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีการลดภาษีที่ดินฯ ลง 90% ทำให้รายได้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลดลงถึงปีละประมาณ 30,000 ล้านบาท และยังขาดรายได้ไปพัฒนาพื้นที่ จึงทำให้รัฐบาล ประกาศคงอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปีภาษี 2565-2566 ในอัตราเช่นเดียวกับปี 2563-2564 แต่ไม่มีการปรับลดการจัดเก็บลง 90% เหมือนที่ผ่านมา จึงเกิดปรากฏการณ์พลิกผืนดินรกร้างให้เกิดการใช้ประโยชน์เกิดขึ้น

ด้านเกษตรกรผู้ปลูกกล้วย ก็เปิดใจยอมรับว่า กังวลกับปริมาณกล้วยที่จะออกมาเพิ่มจากผู้ต้องการหลบเลี่ยงภาษี โดยสุ่มเสี่ยงเกิดทั้งกล้วยราคาตก และอาจสูญเสียยอดขายลดลงด้วย