ชัชชาติ รับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.อย่างเป็นทางการ

เจาะประเด็นข่าว 7HD - นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เข้ารับตำแหน่ง ผู้ว่าฯ กทม.อย่างเป็นทางการแล้ว หลัง กกต. รับรองผลการเลือกตั้ง สุจริตและเที่ยงธรรม พร้อมเดินหน้าพูดคุยข้าราชการ ขอทำงานร่วมกันเป็นทีม ไม่ใช่เจ้านาย กับ ลูกน้อง

ช่วงสายวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนที่ 17 ไปรับมอบประกาศรับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. อย่างเป็นทางการ จากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. พร้อมกับ สก. 45 คน ที่ผ่านการรับรองแล้ว ก็ทยอยเดินทางเข้ารับมอบเช่นกัน โดยมีนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เป็นผู้มอบใบรับรอง

และถือฤกษ์ดี 13.19 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เดินทางเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. อย่างเป็นทางการ ที่ศาลาว่าการ กทม. เสาชิงช้า เป็นวันแรก พร้อมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่น จากข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ กทม. ส่งเสียง โบกมือทักทายอย่างเป็นกันเอง ก่อนรับมอบงานจากนายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัด กทม.

นายชัชชาติ กล่าวกับข้าราชการ ว่าอยากให้เรียกตนว่าอาจารย์ ไม่ต้องเรียกผู้ว่าฯ เพราะจะได้คุ้นเคยกัน และที่ผ่านมาทำงานเป็นอาจารย์มาตลอด ส่วนเรื่องการทำงาน อยากให้ทุกคนตั้งใจทำงาน รู้หน้าที่ และงานของตัวเอง หากมีปัญหา หรือ ข้อสงสัย ให้สอบถามและพูดคุยกันโดยตรง เพราะตนไม่ได้เป็นเจ้านาย แต่เป็นทีมงานเดียวกัน มีอะไรต้องช่วยกัน พร้อมขอความร่วมมือข้าราชการในการลงพื้นที่แต่ละครั้ง ให้มาเฉพาะคนที่จำเป็นต้องมาทำงาน และย้ำว่าการลงพื้นที่หลังจากนี้ จะไปทุกเขตแบบสัญจร ไม่ต้องให้ใครมาต้อนรับ และฝากถึงข้าราชการ กทม. ที่ทำงานมานาน จะให้ความเป็นธรรมในการบรรจุแต่งตั้ง โดยจะเชิญองค์กรต่อต้านคอรัปชัน เข้ามาร่วมหารือถึงประเด็นนี้ ในสัปดาห์หน้า

พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดตัวรองผู้ว่าฯ กทม. 4 คน คือ รองศาสตราจารย์วิศณุ ทรัพย์สมพล อดีตรองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นายจักกพันธุ์ ผิวงาม อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. , ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทวิดา กมลเวชช คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายศานนท์ หวังสร้างบุญ ที่ผ่านทำงานภาคประชาชนมาหลากหลาย ส่วนที่ปรึกษามี 9 คน 1 ในนั้น คือ พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และมีนายต่อศักดิ์ โชติมงคล เป็นประธานที่ปรึกษา ส่วนนายภิมุข สิมะโรจน์ จะมาเป็นเลขานุการ ผู้ว่าฯ กทม.

โดยมีนโยบายเร่งด่วน 4 เรื่อง คือ การแก้ปัญหาน้ำท่วม, เรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน ทางม้าลาย, เรื่องหาบเร่แผงลอย และสัมปทานรถไฟฟ้า สายสีเขียว ซึ่งในวันพรุ่งนี้ จะเรียกบริษัท กรุงเทพธนาคม เข้ามาพูดคุย

ส่วนกรณีงบประมาณปี 2565 ของ กทม. ที่เหลือไม่ถึง 100 ล้านบาท ก็ไม่กังวล เพราะนโยบาย 214 ข้อ มีหลายเรื่องที่ใช้งบประมาณน้อย สามารถเดินหน้าได้ทันที เช่น การใช้แอปพลิเคชัน รับเรื่องร้องเรียน และหากนโยบายที่จำเป็นต้องใช้งบประมาณ สามารถรองบปี 2566 ได้ รวมถึง กทม. ยังมีเงินสะสมกว่า 10,000 ล้านบาท ที่สามารถเบิกเป็นงบฉุกเฉินได้