เปิดกิจกรรมเสี่ยงโควิด-19 หลังยอดติดเชื้อ-เสียชีวิตลดลง

เจาะประเด็นข่าว 7HD - วันนี้หลายมาตรการและกิจกรรมก็เริ่มผ่อนคลายกลับมาเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตจากโควิด-19 ลดลงต่อเนื่อง

เริ่มที่การปลดล็อกมาตรการให้สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และอาบอบนวด กลับมาเปิดได้ตามปกติ วันนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ส่งผลให้หลายพื้นที่ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทั้งในกรุงเทพฯ อาทิ  ถนนข้าวสาร, วอล์คกิ้ง สตรีท เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดกระบี่ ต่างตื่นตัวเร่งทำความสะอาดภายในสถานบริการ พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค

ควบคู่ไปกับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ลงพื้นที่ซักซ้อมทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ ถึงแนวทางปฏิบัติ โดยเน้นจัดระบบให้เกิดอากาศถ่ายเท มีมาตรการควบคุมโควิด อาทิ การเว้นระยะห่างโต๊ะอาหารและเครื่องดื่มซึ่งห่างกัน 1 เมตร, การตั้งเวทีของนักดนตรี และวงดนตรีแสดงสด ซึ่งห่างจากโต๊ะผู้เข้ารับบริการ ในระยะ 5 เมตร พนักงานผู้ให้บริการต้องฉีดวัคซีนแล้ว 3 เข็ม และผู้มาใช้บริการต้องแสดงประวัติการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น จึงจะเข้าใช้บริการได้ด้วย

นอกจากนี้ วันนี้ยังเป็นวันแรกที่บริษัท หรือ สถานประกอบการ ไม่ต้องตรวจ ATK ประจำสัปดาห์แล้ว โดยให้ตรวจเฉพาะ ผู้มีอาการป่วย เช่น ไข้ ไอ น้ำมูกไหล เจ็บคอ หอบเหนื่อย แต่มีข้อแนะนำสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ดูแลเด็กเล็ก ควรตรวจ ATK เป็นประจำทุกสัปดาห์

พร้อมกับ ยกเลิกการกักตัวของกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง แต่ให้สังเกตอาการตัวเอง 10 วัน และตรวจ ATK เมื่อมีอาการป่วย ไปทำงานได้ แต่ต้องแยกพื้นที่กับผู้อื่น งดกิจกรรมและใช้ขนส่งสาธารณะที่ต้องร่วมกับคนจำนวนมาก

รวมทั้งยกเลิกการกักตัวทุกรูปแบบ สำหรับคนไทยที่จะเดินทางเข้าประเทศ ยกเว้นชาวต่างชาติ ยังต้องลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass พร้อมแนบประวัติการรับวัคซีน เอกสารประกันสุขภาพ หากฉีดวัคซีนไม่ครบ ให้แสดงหลักฐานตรวจโควิดได้ ทั้งแบบ ATK และ RT-PCR ที่ออกภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และกระทรวงสาธารณสุขยังยุติให้บริการ แอปฯ หมอชนะ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่โรคประจำถิ่น ต่อไป

ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ วันนี้ มี 4,563 คน โดยพื้นที่กรุงเทพฯ ยังพบผู้ติดเชื้อนำโด่งถึงกว่า 2,300 คน รองมาจังหวัดขอนแก่น ยังพบผู้ติดเชื้อเกินร้อยคน และอีก 8 จังหวัดยอดติดเชื้อต่ำกว่าร้อยคนแล้ว

ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมขยับขึ้นกว่า 4,450,000 คน และยังเหลือผู้ป่วยรักษาตัว ในระบบอีกกว่า 39,000 คน ในจำนวนนี้อาการหนัก 850 คน ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 414 คน

ขณะที่ ผู้ป่วยหายมีเพิ่มอีกกว่า 5,100 คน ทำให้ยอดหายป่วยสะสม ขยับเพิ่มขึ้นกว่า 4,300,000 คน ส่วนผู้เสียชีวิตมีเพิ่มอีก 28 คน โดยเป็นผู้สูงอายุและมีโรคเรื้อรังถึง 96% และมี 3 คน ที่ตรวจพบเชื้อในวันเสียชีวิต ทำให้ยอดเสียชีวิตสะสมขยับขึ้นเป็น 30,047 คน

ขณะที่ ยอดการฉีดวัคซีนล่าสุด ขยับขึ้นกว่า 137 ล้านโดส และเข็มกระตุ้นหรือเข็ม 3 ฉีดไปแล้วกว่า 28 ล้านคน