จับรถกระบะ ติดตราสัญลักษณ์ สนง.ศาลยุติธรรม ลักลอบขนแรงงานเมียนมา

เช้านี้ที่หมอชิต - ชาวบ้านสุดทน รวมตัวช่วยทหารล้อมจับชาวเมียนมา ขับรถกระบะติดตราสัญลักษณ์สำนักงานศาลยุติธรรม ลักลอบขนแรงงานเถื่อน 70 คน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บริเวณทางสามแยก ใกล้กับโรงเรียนเศรษฐพานิชวิทยา บ้านโป่งเกตุ ตำบลห้วยทราย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชาวบ้านหมู่บ้านโป่งเกตุ จำนวนกว่า 10 คน รวมตัวช่วยเหลือทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ ปิดล้อมสกัดจับรถกระบะลักลอบขนแรงงานประเทศเพื่อนบ้านเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยสามารถจับกุมคนขับรถซึ่งเป็นผู้นำพาเป็นคนไทย 1 คน คนขับรถชาวเมียนมา 4 คน รวม 5 คน ยึดรถยนต์ได้จำนวน 5 คัน โดยมีรถ 2 คัน เป็นรถที่ติดตราสัญลักษณ์สำนักงานศาลยุติธรรม พร้อมแรงงานประเทศเพื่อนบ้านชาย-หญิง รวมจำนวน 70 คน แบ่งเป็นชาย 52 คน หญิง 15 คน ผู้ติดตามเป็นเด็กชาย 2 คน และเด็กหญิง 1 คน ซึ่งมากับมารดา

จากการสอบสวนเบื้องต้น แรงงานประเทศเพื่อนบ้านที่พูดภาษาไทยได้ ให้การยอมรับสารภาพว่า กลุ่มแรงงานทั้ง 70 คน ได้เดินทางมาจากหลายจังหวัดในประเทศเมียนมา เช่น จังหวัดทวาย จังหวัดมะริด จังหวัดพะโค ฯลฯ จากนั้นมาพักคอยคนนำทางเดินเท้าข้ามแดน ที่บริเวณบ้านมูด่องฝั่งประเทศเมียนมา จากนั้นได้เดินเท้าข้ามแดนมาตามช่องทางธรรมชาติ มารอนายหน้าฝั่งไทยมารับ โดยจะเสียค่านำพาคนละ 20,000-25,000 บาท ซึ่งจุดหมายปลายทางจะไปที่ตำบลมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร และประเทศที่ 3 (มาเลเซีย)

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำแรงงานทั้งหมดไปจัดทำประวัติ และตรวจอุณหภูมิร่างกายเบื้องต้น พร้อมตรวจยึดรถกระบะจำนวน 3 คัน ไปจอดเก็บไว้ที่ด่านจุดตรวจประชารัฐ หมู่ 6 ตำบลคลองวาฬ ส่วนรถกระบะอีก 2 คัน พร้อมคนขับชาวเมียนมาจำนวน 2 คน ซึ่งกันชนหน้ารถมีการติดตราสัญลักษณ์สำนักงานศาลยุติธรรม ได้ให้การยอมรับสารภาพว่า กำลังเข้ามารับแรงงานประเทศเพื่อนบ้านด้วยเช่นกัน แต่ถูกจับเสียก่อน ตำรวจ สภ.คลองวาฬ จึงได้ควบคุมตัวคนขับ พร้อมอายัดรถไปตรวจสอบรายละเอียดที่โรงพัก จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาชาวเมียนมาทั้งหมดไปพักไว้ที่ศูนย์พักคอยเพื่อกักกันโรค ที่บริเวณหมู่ 5 บ้านห้วยใหญ่ ตำบลคลองวาฬ ในระหว่างรอดำเนินคดีตามกฎหมาย

แหล่งข่าวในพื้นที่ ระบุว่า ทุก ๆ คืนจะมีรถป้ายทะเบียนต่างจังหวัด เข้ามารับแรงงานชาวเมียนมาที่หลบหนีเข้าเมือง คืนละไม่ต่ำกว่า 10-20 คัน ตั้งแต่ประมาณหลัง 22.00-05.00 น. บางวันรถขนแรงงานก็เข้ามารับในพื้นที่ช่วงเวลากลางวัน เหมือนไม่เกรงกลัวกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่มีการจับกุมได้น้อยครั้ง อาจเป็นเพราะกำลังพลมีน้อย และที่ผ่านมาขบวนการขนแรงงานเถื่อน มีการใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่เพื่อเปิดทาง จึงทำให้ชาวบ้านในพื้นที่บางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับขบวนการลักลอบขนแรงงานเถื่อน ทนไม่ไหว จึงได้รวมตัวออกมาช่วยเจ้าหน้าที่ทำการจับกุม เนื่องจากรักและหวงแหนในประเทศบ้านเกิดของตนเอง