จับเพิ่มแรงงานเถื่อนหลบหนีเข้าเมือง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

เจาะประเด็นข่าว 7HD - เจ้าหน้าที่ระดมกำลังปูพรมค้นหาแรงงานเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายบนภูเขา ในพื้นที่ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และบริเวณป่าละเมาะ เชื่อมโยงคดีฆ่ามัดมือมัดเท้าชายชาวบ้านพรุแล้วฝังดิน ปรากฎว่าจับกุมรวมขณะนี้มากกว่า 200 คนแล้ว

ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่ามัดมือมัดเท้า นายหมัดดล บินสัน อายุ 40 ปี ชาวตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หลังพบศพถูกฝังดินอยู่ ในสวนผลไม้ใกล้สนามกอล์ฟชื่อดัง ในพื้นที่ตำบลบ้านพรุ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ล่าสุดขณะนี้ พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งลุง รวบรวมพยานหลักฐาน และรอผลตรวจนิติวิทยาศาสตร์กลุ่มแรงงานเมียนมาที่พบอยู่ในพื้นที่ ซึ่งหากได้ผลตรวจแล้ว ก็จะนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาได้ 

ส่วนแรงงานชาวเมียนมาที่หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ปรากฎว่าตั้งแต่หลังเกิดเหตุ จนถึงเช้าของวันนี้ จับกุมได้แล้วมากกว่า 165 คน โดยจับกุมได้มากที่สุดภายในห้องเช่าไม่มีเลขที่ ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ได้มากกว่า 109 คน รวมทั้งในป่าละเมาะ 49 คน และป่าริมทางรถไฟอีก 7 คน

ซึ่งเช้าวันนี้ กำลังทหารจากหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 5 พร้อมกำลังทหารร้อย ร.5021 จากมณฑลทหารบกที่ 42 ฝ่ายปกครองอำเภอหาดใหญ่ และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านกว่า 50 นาย แบ่งกำลัง 3 ชุด เดินเท้าปูพรมขึ้นบนภูเขาห่างจากจุดพบศพประมาณ 2-3 กิโลเมตร เพื่อค้นหาแรงงานชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ปรากฎว่าพบแคมป์ที่พักกระจัดกระจายหลายจุด แต่ละจุดยังมีร่องรอยการพักค้างแรม รวมทั้งเสื้อผ้า ขวดน้ำดื่ม และซองขนมสภาพใหม่ ๆ และยังมีการนำเถาวัลย์มาผูกมัดกับต้นไม้ทำเป็นราวตากผ้าด้วย ซึ่งการตรวจค้นจุดนี้ไม่พบแรงงานแต่อย่างใด

กระทั่ง ช่วงเที่ยง ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ใช้ล่ามภาษาชาวเมียนมาพูดคุยกับแรงงานเมียนมาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ ทำให้รู้แหล่งหลบซ่อนอยู่ในป่าละเมาะหลังสนามกีฬาเมืองหลักภาคใต้ พรุค้างคาว ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งอยู่อีกฝั่งถนนกับจุดค้นหาบนภูเขาจุดแรก กระทั่งไปที่หมาย ปรากฎว่าแรงงานวิ่งหนี เจ้าหน้าที่ต้องวิ่งไล่ตาม

ซึ่งจุดนี้เจ้าหน้าที่ต้องใช้แรงงานเมียนมาที่พูดภาษาไทยได้เล็กน้อย สื่อสารกันให้ไปเรียกเพื่อนแรงงานออกจากการหลบซ่อน กระทั่งพบแรงงานหลบซ่อนอยู่ในจุดนี้มากกว่า 60 คน ซึ่งบางคนถึงกับร้องไห้ยกมือขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เข้าช่วยเหลือ ซึ่งล่ามภาษาชาวเมียนมา เผยว่า แรงงานได้บอกว่าหลบหนีเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติมาได้ 5 วันแล้ว เพื่อรอคนมารับไปส่งที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อไปทำงาน ซึ่งแต่ละวันก็ต้องหลบซ่อนอยู่ในป่าละเมาะด้วยความลำบากและไม่ได้กินข้าว ซึ่งขณะนี้แรงงานให้การว่า ยังมีเพื่อนแรงงานด้วยกันยังหลบหนีอยู่ในป่าละเมาะพื้นที่ดังกล่าวอีกมากกว่า 200 คน

สำหรับพื้นที่ดังกล่าว ชาวบ้านให้เบาะแสว่ากลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ และผู้นำพาแรงงานหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย มักนำกลุ่มแรงงานมาพักอยู่ในพื้นที่นี้ก่อนส่งต่อไปหางานทำยังประเทศมาเลเซีย ที่ผ่านมามีการปราบปรามและจับกุมมาแล้วหลายครั้ง ก่อนจะหายไปแล้วระยะหนึ่ง กระทั่งครั้งล่าสุดนี้ถือว่าจับได้มากกว่าที่สุดอีกครั้งหนึ่ง