โควิด-19 ยังไม่ฟันธง ถอดหน้ากากฯ หรือ ขยายเวลาปิดสถานบันเทิงไปตี 2

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ยังไม่ฟันธง เรื่องการให้ถอดหน้ากากอนามัยในพื้นที่โล่งแจ้ง และขยายเวลาปิดสถานบันเทิงไป 02.00 น. ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข วอนประชาชนเร่งมาฉีดวัคซีนเข็ม 3 หลังมีเพียง 20 จังหวัดที่ยอดฉีดเกิน 60% ของประชากรทุกกลุ่ม พร้อมชี้การฉีดวัคซีนเข็ม 5 ขอให้แพทย์พิจารณาเป็นรายบุคคล

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 หรือ ผอ.ศบค. กล่าวถึงกรณี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. จะเสนอ ศบค. พิจารณาการถอดหน้ากากอนามัยในพื้นที่โล่ง หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มดีขึ้นว่า "เขามีการพิจารณากันอยู่ และมีหลายเรื่องที่ ศบค.พิจารณาไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ขอให้รอฟัง"

ขณะที่ พลเอกสุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค. กล่าวถึงการถอดหน้ากากอนามัยและการขยายเวลาปิดสถานบันเทิงถึง 02.00 น. จากปัจจุบันที่เปิดได้ถึง 00.00 น. ว่าจะประเมินผลการผ่อนคลายกิจกรรมอีกครั้งในวันที่ 10 มิถุนายนนี้ แต่ขอย้ำว่า นโยบาย ศบค. และนายกฯ มีวัตถุประสงค์ผ่อนคลายกิจกรรม คือ ต้องทำให้ประชาชนประกอบอาชีพเป็นปกติเพื่อเศรษฐกิจจะได้เดินคู่ไปกับความปลอดภัย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจังหวัดต่าง ๆ รวมถึง กทม. จะเสนอและหารือร่วมกันในการประชุม เพื่อรวบรวมมาตรการต่าง ๆ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบตามมา

ส่วนผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้มีเพิ่มอีก 2,162 คน ยังไม่รวมผลตรวจ ATK อีก 2,438 คน หากรวม 2 ระบบจะอยู่ที่กว่า 4,500 คนแล้ว ทำให้ยอดการติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็นกว่า 4.4 ล้านคน ในจำนวนนี้เหลือรักษาตัวในระบบกว่า 29,500 คน แบ่งเป็นอาการหนัก 761 คน และต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 375 คน

และหายป่วยกลับบ้านมีเพิ่มกว่า 4,800 คน ทำให้ตัวเลขหายป่วยสะสมขยับเพิ่มเป็นกว่า 4.4 ล้านคนแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตมีเพิ่มอีก 27 คน โดยส่วนใหญ่ยังอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุและมีโรคเรื้อรังส่งผลให้อัตราเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 30,198 คน 

ขณะที่การฉีดวัคซีนล่าสุด ฉีดไปแล้วกว่า 138 ล้านโดส โดยเข็มกระตุ้นหรือ เข็ม 3 ฉีดไปได้เพียงกว่า 28 ล้านคนเท่านั้น

ทำให้วันนี้นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้หากดูการฉีดวัคซีนโดยเฉพาะเข็มกระตุ้นจะพบว่ามีเพียง 20 จังหวัดที่มีการฉีดได้แล้วกว่าร้อยละ 60 ในประชาชนทุกกลุ่ม จึงมอบหมายให้สาธารณสุขจังหวัดเร่งปรับแผนการฉีดวัคซีนเป็นรายพื้นที่ เนื่องจากพบว่าพื้นที่ชนบทที่ไม่ได้อยู่ในอำเภอเมือง ประชาชนมาฉีดวัคซีนกันน้อยมาก โดยเฉพาะกลุ่ม 608 แม้ว่าผลการฉีดวัคซีนจะมีข้อพิสูจน์แล้วว่าจะช่วยลดอาการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ แต่ประชาชนบางส่วนก็ยังไม่มั่นใจกังวลผลข้างเคียง ส่วนการฉีดวัคซีนเข็ม 5 ยังไม่มีคำแนะนำกลาง แต่ขอให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาโดยเฉพาะผู้มีโรคประจำตัว หรือ บุคคลที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ