จบดรามา ชุดลูกเสือ-เนตรนารี แพง ศธ.ยืดหยุ่น ไม่ต้องสวมเครื่องแบบ
เจาะประเด็นข่าว 7HD - หลังเกิดดรามา ปมชุดลูกเสือ เนตรนารี มีราคาแพง ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้นโยบาย ไม่จำเป็นต้องสวมเครื่องแบบ ขอแค่มีสัญลักษณ์ บ่งบอกว่าเรียนวิชาลูกเสือ เนตรนารี เพื่อแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง
ตามที่เพจ Drama Addict โพสต์ภาพใบเสร็จชุดลูกเสือ ที่พ่อแม่ ต้องจ่าย รวมทุกอย่างแล้วเป็นหลักพัน มีตั้งแต่ประมาณ 1,000-2,000 บาท ทั้งเสื้อ กางเกง ผ้าพันคอ และเครื่องหมายลูกเสือ ยิ่งถ้าบ้านไหนมีลูกหลายคน ต้องซื้อให้ลูกใส่ไปเรียน ค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มมากขึ้นกว่า 1 ชุด
ประเด็นนี้โซเชียลมีเดียแชร์กันมาก และแสดงความคิดเห็นกันว่า ทุกวันนี้เศรษฐกิจฝืดเคือง อะไรที่แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครองได้ก็ควรช่วยเหลือประชาชน นอกจากนี้ยังเข้าไปแสดงความเห็น เสนอให้ยกเลิกชุดลูกเสือ-เนตรนารี จากปัญหามีราคาแพง ไปจนถึงการตั้งคำถามว่าวิชาลูกเสือ-เนตรนารี เหมาะกับยุคสมัยหรือไม่ เรียนกันมาเกือบ 100 ปีแล้ว และมีการเสนอให้ยกเลิกการเรียนการสอนวิชาลูกเสือ-เนตรนารีไปด้วย
สอบถามความเห็นไปยัง นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การแต่งกายชุดลูกเสือเป็นไปตามหลักสูตรกฏกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งโรงเรียนในสังกัด กทม. 437 แห่งต้องปฏิบัติตาม
ส่วนปัญหาค่าใช้จ่าย การแต่งกายชุดลูกเสือ-เนตรนารี ของโรงเรียนในสังกัด กทม. ไม่มีปัญหา เนื่องจากค่าชุด ค่าเครื่องแบบ ทางโรงเรียนเป็นผู้ดำเนินการให้ฟรี ส่วนนักเรียนที่เครื่องแบบไม่พร้อม ชำรุด สูญหาย ก็ไม่ต้องกังวล ทาง ผอ.สำนักการศึกษา ได้กำชับครู ไม่ต้องลงโทษ ขอให้เด็กเข้าร่วมชั่วโมงเรียนได้ตามปกติ เนื่องจากเป็นวิชาเสริม
ล่าสุด นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า รับทราบปัญหาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาโดยตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ย้ำไปยังสถานศึกษาทุกแห่งแล้วว่าสิ่งใดที่ไม่จำเป็น และจะเป็นการสร้างภาระให้แก่ผู้ปกครอง ขอให้สถานศึกษายืดหยุ่นการจัดการเรียนการสอน โดยบางวิชาอย่าง เช่น วิชาลูกเสือ ที่ต้องมีการแต่งเครื่องแบบก็ไม่จำเป็นจะต้องมีการแต่งเครื่องแบบ แต่ขอให้มีสัญลักษณ์เฉพาะบ่งบอกให้รู้ว่าเด็กได้เรียนวิชาลูกเสือ ซึ่งที่ผ่านมาตนได้ชี้แจงทำความเข้าใจให้แก่สถานศึกษาได้รับทราบถึงแนวปฏิบัตินี้แล้ว แต่ครั้งนี้จะกำชับสื่อสารทำความเข้าใจให้มากขึ้น
ขอบคุณภาพจาก : Facebook Drama Addict
