ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

พิษน้ำมันแพง เศรษฐกิจย่ำแย่ ทำพ่อค้าแม่ค้านั่งน้ำตาตกใน จ.น่าน

เช้านี้ที่หมอชิต - ปาดเหงื่อกันอีกครั้ง หลังปรับขึ้นน้ำมันดีเซล 1 บาท คนที่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกวัน แห่เติมน้ำมันเก็บไว้ เพราะเริ่มสู่ราคาน้ำมันที่ขึ้นรายวัน ไม่ไหว

ภายหลังผู้ใช้รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ทราบว่าวันนี้ (7 มิ.ย.) น้ำมันดีเซลจะขึ้นอีก 1 บาท จึงพากันนำรถคู่ใจมาเติมน้ำมันที่ปั้ม ปตท.ถนนมหายศ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน โดยรถที่เข้าใช้บริการส่วนใหญ่เป็นรถกระบะ รถบรรทุก รถส่งสินค้า รถรับเหมาสินค้า รถข้าราชการหน่วยงานต่าง ๆ หรือรถยนต์ที่จะต้องใช้พลังงานเชื้อเพลิงทุกวัน

ขณะที่ นายธวัช พอใจ ผู้ใช้บริการ เล่าว่า ส่วนตัวขับรถยนต์เดินทางไปทำงานเป็นประจำทุกวัน ก็จะต้องเติมน้ำมันดีเซลเผื่อไว้เสมอ เพื่อให้เพียงพอต่อการเดินทางแต่ละครั้ง จึงอยากจะขอร้องให้ราคาน้ำมันลดลงมาบ้าง เนื่องจากที่ผ่านมาก็ขึ้นมาตลอด ประกอบกับช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่

นายวิทูรย์ อินทวงศ์ ผู้ใช้บริการ เล่าว่า ภายหลังจากทราบข่าวว่าน้ำมันดีเซลจะขึ้นราคา ก็รีบมาเติมน้ำมันไว้ก่อน เนื่องจากจะต้องใช้รถยนต์ทุกวัน จึงเลือกที่จะเติมน้ำมันล่วงหน้า เฉลี่ยครั้งละ 400 ถึง 500 บาท แต่ถ้าเติมเต็มถัง ราคาประมาณ 1,400 บาท จึงอยากจะขอร้องให้ราคาน้ำมันลดลงบ้าง

นางปราณี ทนินทิ ผู้จัดการปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาสวนตาล (ถนนมหายศ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน) ระบุว่า หลังจากมีแจ้งว่าน้ำมันจะปรับราคาขึ้น ลูกค้าที่มาใช้บริการก็จะมีบ่นบ้างเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็มีลูกค้าเข้ามาเติมน้ำมันเรื่อย ๆ แต่ยังไม่คึกคักเหมือนที่ผ่านมา

ขณะที่บรรดาพ่อค้า-แม่ค้าที่ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ตระเวนขายทั้งผักไปตามตรอกซอย ในพื้นที่ตำบลโนนสูง อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ออกมาเรียกร้อง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ส่งผลให้ข้าวของอุปโภค บริโภค ปรับราคาสูงขึ้นตามไปด้วย

นายศราวุธ หวนคิด อายุ 45 ปี เล่าว่า ตอนนี้ค่าน้ำมันปรับสูงขึ้นเป็นเท่าตัว หากเทียบกับสมัยก่อน เติมน้ำมันเพียง 50 บาท ต่อ 1 วัน แต่ตอนนี้จะต้องเติม 80 ถึง 90 บาท ต่อ 1 วัน ส่วนสินค้าที่เป็นของสด ก็ราคาสูงขึ้น ผักสวนครัวราคาสูงขึ้น แต่ผักน้อยลง เช่น ต้นหอมผักชี รับมาในราคา 4 บาท และมาขายในราคา 5 บาท ได้กำไร 1 บาท ทำให้ต้องแบกรับภาระเงินลงทุน ในการซื้อสินค้ามาจำหน่ายในราคาสูง แต่ต้องมาขายให้กับชาวบ้านในราคาเท่าเดิม เพราะถ้าหากปรับราคาขึ้น ก็จะทำให้ชาวบ้านกลุ่มที่มีรายได้น้อย ได้รับผลกระทบไปด้วย ไม่รู้ว่าจะแบกรับภาระได้นานแค่ไหน

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark