รวบแล้ว วินรถ จยย.พยายามฉุด นร.หญิง
เช้านี้ที่หมอชิต - วินรถจักรยานยนต์รับจ้างหลอกพานักเรียนหญิงอายุ 16 ปี เลี้ยวเข้าม่านรูด อ้างจะพาไปส่งบ้าน ก่อนใช้มีดคัตเตอร์จี้ลำคอ แต่ผู้เสียหายหนีไปขอความช่วยเหลือไว้ได้ เพื่อนร่วมวินฯ แฉผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
เป็นคลิปวิดีโอที่พลเมืองดีถ่ายไว้ได้ ขณะที่นักเรียนหญิงรายหนึ่งกำลังอยู่ในอาการตื่นตระหนก ร้องไห้เสียงดัง วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว โดยมีชายสวมชุดวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง รูปร่างอวบอ้วน ผิวดำแดง เดินตาม และมีปากเสียงกันอยู่บริเวณโรงแรมม่านรูด ย่านพระราม 4 ก่อนที่ชาวบ้านจะช่วยโทรศัพท์แจ้งตำรวจ สน.คลองตัน เพราะนักเรียนหญิงผู้เสียหายมีร่องรอยฟกช้ำตามร่างกายจากการถูกทำร้าย
โดยเมื่อตำรวจมาถึง พบว่าผู้เสียหายเป็นนักเรียนหญิง อายุเพียง 16 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย ยังคงอยู่ในอาการตื่นตระหนก และเล่าว่า พักอาศัยอยู่ในซอยใกล้ ๆ และช่วงเช้าวันเกิดเหตุ ได้เรียกผู้ก่อเหตุซึ่งขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้างในซอยบ้านให้ไปส่งที่โรงเรียน เมื่อไปถึงโรงเรียนแล้ว ผู้ก่อเหตุก็บอกว่าไม่ต้องเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันแล้ว ให้โทรตามได้เลย พร้อมทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ เมื่อผู้เสียหายเลิกเรียนจึงได้โทรเรียกผู้ก่อเหตุให้มารับ เพราะเห็นว่าเป็นวินรถจักรยานยนต์รับจ้างในซอยบ้าน แต่ระหว่างทางผู้ก่อเหตุกลับพาเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านรูด ก่อนจะใช้มีดคัตเตอร์จี้ลำคอ และยึดโทรศัพท์มือถือไอโฟนของผู้เสียหายไป ก่อนจะฉุดกระชากจนผู้เสียหายล้มลงกับพื้น ผู้เสียหายจึงฉวยโอกาสหนีไปขอความช่วยเหลือ ส่วนผู้ก่อเหตุก็ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
แต่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ตำรวจ สน.คลองตัน ร่วมกับชุดสืบสวนนครบาล 5 ก็เข้าจับกุมตัว นายสมศักดิ์ แจ้งสัตย์ ผู้ต้องหาวินจักรยานยนต์รับจ้าง หมายเลข 41 ที่ก่อเหตุได้ภายในวัดใต้ ซอยอ่อนนุช 5 และได้ให้ผู้ต้องหาชี้จุดที่โยนมีดคัตเตอร์ที่ใช้ก่อเหตุ และโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายทิ้งลงคลองพระโขนง โดยได้ให้นักประดาน้ำงมหาของกลางทั้ง 2 ชิ้น นานเกือบ 4 ชั่วโมง พบเพียงมีดคัตเตอร์ ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นมีดของตนเอง แต่ไม่ได้นำไปใช้ก่อเหตุ เพราะยังไม่ทันจะได้ทำอะไร ส่วนโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายยังไม่พบ จนเจ้าหน้าที่ต้องยุติการค้นหา
ขณะที่ ผู้ต้องหาได้ถูกคุมตัวไปสอบสวนต่อที่ สน.คลองตัน โดยปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์ใด ๆ ต่อสื่อมวลชน
จะเห็นได้ว่าแม้สื่อมวลชนจะถามว่าต้องการจะขอโทษผู้เสียหายหรือไม่ ผู้ต้องหาก็ยังคงปฏิเสธที่จะตอบ แต่มีรายงานว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพกับตำรวจว่าก่อเหตุเพราะตั้งใจอยากจะร่วมหลับนอนกับผู้เสียหาย ขณะที่เพื่อนร่วมวินของผู้ต้องหายังให้ข้อมูลว่า ผู้ต้องหายังมีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกด้วย
