ผู้ประกอบการรถโดยสารถอดใจ เตรียมหยุดให้บริการสิ้นเดือนนี้

เช้านี้ที่หมอชิต - วันพฤหัสบดีนี้ ผู้ประกอบการรถโดยสาร เตรียมเข้าหารือกับคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง อีกครั้ง เพื่อเจรจาขอขยับขึ้นค่าโดยสาร หลังราคาน้ำมันดีเซลยังพุ่งไม่หยุด ตัดพ้อหากไม่สำเร็จ คงต้องพักงานกันยาว

ดีใจได้วันเดียว เช้านี้ราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ปรับขึ้นแล้วลิตรละ 50 สตางค์ ส่วนราคาน้ำมันดีเซล ยังอยู่ที่ลิตรละ 33 บาท 94 สตางค์ ซึ่งหลังรัฐบาลขยับเพดานการตรึงราคา และมีแนวโน้มอาจจะปรับขึ้นราคาอีกลิตรละ 1 ในสัปดาห์หน้านั้น

นายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย เปิดเผยว่า วันที่ 9 มิถุนายนนี้ จะรือร่วมกับคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง อีกครั้งเพื่อขอปรับขึ้นค่าโดยสาร จากที่คิดอัตราเริ่มต้นที่ 40 กิโลเมตรแรก ในอัตรา 53 สตางค์ เป็น 58 สตางค์ต่อกิโลเมตร ซึ่งหากการเจรจาไม่สำเร็จ คาดว่าหลายบริษัทคงหยุดให้บริการภายในเดือนนี้ สุดท้ายแล้วประชาชนคงได้รับผลกระทบ

15 มิ.ย.นี้ เรือด่วนเจ้าพระยาขึ้นค่าบริการ 1 บาท
ขณะที่ ผู้ประกอบการเรือด่วนเจ้าพระยา ประกาศปรับขึ้นค่าโดยสารระยะทางละ 1 บาท ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป ส่งผลให้ค่าบริการเปลี่ยนแปลงจากราคาเริ่มต้น 15 บาท สูงสุด 32 บาท เป็น เริ่มต้น 16 บาท สูงสุด 33 บาท ตามประเภทเรือ และหากราคาน้ำมันขยับขึ้นต่อเนื่องในช่วงระยะเวลา 10 วันก็จะปรับขึ่้นค่าโดยสารอีกครั้ง ยืนยันว่า หากราคาน้ำมันดีเซลลดลง ก็พร้อมจะลดค่าบริการ

หวั่นน้ำมันดีเซลพุ่งแตะ 40 บาท ราคาสินค้าเพิ่ม 20%
นายอัทธ์ พิศาลวานิช  ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กังวล หากรัฐบาลตัดสินใจขยับเพดานราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล จากลิตรละ 35 บาท เป็นลิตรละ 40 บาท จะส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ และราคาสินค้า โดยจะทำให้เงินเฟ้อในช่วงครึ่งปีหลังปรับเพิ่มจาก 7% เป็นไม่น้อยกว่า 10% ส่วนราคาสินค้าจะปรับเพิ่มจาก 10% เป็นอีก 20% ประชาชนจะรับภาระหนักจากราคาสินค้าที่สูงขึ้นมาก สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ คือพยายามตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไว้ไม่เกินลิตรละ 35 บาท หรืออาจปรับโครงการสร้างราคาน้ำมันใหม่,กำหนดมาตรการช่วยเหลือประชาชนด้วยการซื้อน้ำมันราคามิตรภาพ หรือหางบประมาณมาชดเชย ส่วนต่างราคา รวมทั้งอาจจะออกมาตรการจูงใจให้ประชาชนใช้รถสาธารณะมากขึ้น ด้วยการแจกคูปองช่วยเหลือค่าเดินทาง