จับรายวัน แรงงานผิดกฎหมายทะลักเข้าไทย จ.กำแพงเพชร

เช้านี้ที่หมอชิต - ที่ผ่านมาโดยเฉพาะช่วงหลังจากที่รัฐบาลประกาศผ่อนคลายสถานการณ์โควิด-19 พบมีแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน (3 สัญชาติ เมียนมา, สปป.ลาว และกัมพูชา) จำนวนไม่น้อย ทะลักเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมายแบบรายวัน เจ้าหน้าที่ปราบปรามจับกุมอย่างไรก็ไม่หมดสักที  ล่าสุดที่จังหวัดกำแพงเพชร ตำรวจ-เจ้าหน้าที่สกัดจับแรงงานลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมายได้มากถึง 129 คน

จับรายวัน แรงงานผิดกฎหมายทะลักเข้าไทย จ.กำแพงเพชร
นี่เป็นภาพกลุ่มแรงงานผิดกฎหมาย จำนวน 129 คน แบ่งเป็นชาย 93 คน และหญิง 36 คน ซึ่งเดินทางจากประเทศเมียนมา ข้ามชายแดนมายังพื้นที่จังหวัดตาก พอมาถึงจะเข้าสู่ขบวนการแบบเดิม ๆ คือมีนายหน้ามารับ พาเดินทางเข้ามายังพื้นที่ชั้นในของประเทศไทย แต่ยังไม่ทันถึงที่หมาย เนื่องจากระหว่างขบวนการพาตัวมาซ่อนไว้บริเวณช่องเขา หมู่บ้านหนองมะคึก ตำบลท่าไม้ อำเภอพรานกระต่าย ปรากฏมีคนมาเห็นจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ ก่อนจะประสานกำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร เข้าควบคุมตัวแรงงานเอาไว้ได้ก่อนที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

สอบถามแรงงานหญิงคนหนึ่ง ที่สามารถพูดภาษาไทยได้ บอกว่า ต้องการเดินทางไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร แต่จำไม่ได้ว่าเขตใด โดยจ่ายค่าหัวคนละ 22,000 บาท แต่ตนเองและเพื่อนแรงงานทั้งหมดยังไม่ได้จ่ายเงิน เนื่องจากตกลงกับผู้นำพาไว้ว่าจะต้องพาพวกตนเดินทางไปถึงกรุงเทพมหานครก่อน จึงจะจ่ายเงินให้ แต่ยังไม่ทันถึงที่หมายถูกจับได้เสียก่อน

รวบแรงงานผิดกฎหมาย 30 คน พร้อมผู้นำพา จ.ระนอง
อีกพื้นที่มีแรงงานทะลักรายวัน คือที่จังหวัดระนอง เจ้าหน้าที่กองกำลังเทพสตรี สนธิกำลังร่วมตำรวจสืบสวน สภ.สุขสำราญ บุกไปจับกุมกลุ่มแรงงานสัญชาติเมียนมา จำนวน 30 คน แยกเป็นชาย 23 คน, หญิง 7 คน พร้อมผู้นำพา 1 คน เป็นชายไทยอายุ 26 ปี โดยควบคุมตัวทั้งหมดได้ขณะเรือลอยลำอยู่บริเวณคลองป่าชายเลน ซอยบ่อกุ้งร้าง ตำบลนาคา อำเภอสุขสำราญ เพื่อเตรียมจะขึ้นฝั่ง

จากการเค้นสอบชายไทยอายุ 26 ปี ที่เป็นผู้นำพา ยอมรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากบุคคลหนึ่งให้ไปขนแรงงานทั้งหมดจากบริเวณซอยท่ายาง ตำบลม่วงกลวง อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง แล้วพามาไปส่งบริเวณดังกล่าว โดยได้ค่าจ้างหัวละ 500 บาท พอพามาส่งแล้วต่อจากนั้นจะมีคนขับรถยนต์มารับแรงงานทั้งหมดเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดชั้นในอีกทอด

ทั้งนี้ จากการสอบสวนแรงงานสัญชาติเมียนมา ให้การว่า พวกตนเดินทางจากจังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนมา ด้วยเรือหางยาวข้ามทะเลมายังฝั่งประเทศไทย และขึ้นฝั่งและเข้าพักบริเวณพื้นที่อำเภอกะเปอร์ เป็นเวลา 3 คืน โดยเสียค่าใช้จ่ายให้นายหน้าฝั่งเมียนมา คนละ 20,000 บาท ซึ่งหลังจากสอบสวนแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวแรงงานทั้งหมดไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนส่งตัวให้ตำตรวจดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายและผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป